สวัสดีค่ะ
ไม่รู้จะปรึกษาใคร เหมือนหาทางออกไม่เจอ รบกวนปรึกษาหน่อยนะคะ
ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ ทางครอบครัวดิฉันมีปัญหาเรื่องการผ่อนชำระค่าส่งบ้านไม่ไหว และสามีก็มีหนี้ค้างชำระกับบัตรเครดิต KTC ตอนนี้สามีลาออกจากงานแล้ว ดิฉันก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้ทำงาน เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก ดิฉันไม่ค่อยทราบเรื่องปัญหาการเงินภายในบ้าน ให้สามีเป็นคนจัดการทุกอย่างเรื่องเงิน จนมารู้ทีหลังว่าเขามีหนี้สินเยอะมาก เขายอมลาออกได้เงินมาส่วนหนึ่งจากบริษัทมาโปะหนี้บัตรเครดิตหลาย ๆแบ๊งค์บางส่วน แล้วเราก็ย้ายครอบครัวมาอยู่บ้านแม่ดิฉันที่สุราษฎร์ พร้อมรถมือสองเก่า ๆคันหนึ่งซึ่งเป็นชื่อของดิฉัน (ซื้อสด) สมบัติที่พอมีอยู่ ณ ตอนนี้คือรถ โตโยต้ารุ่นสามห่วง ปี 96 มือสอง ชื่อดิฉัน ตู้เย็น และข้าวของเครื่องใช้ในครัวเล็กน้อยเท่านั้น ทางบ้านพี่ชายกับแม่ ช่วยกันลงทุนเปิดร้านอินเตอร์เน็ตเล็ก ๆ นอกอำเภอไว้ให้ทำเลี้ยงชีพ แต่จดทะเบียนพาณิชย์ชื่อร้านเป็นชื่อพี่ชาย ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ กินอยู่เป็นภาระที่เราต้องจัดการเอง รายได้พอเลี้ยงตัวได้แบบพอเพียง แต่เราไม่มีเงินพอจะส่งค่าบ้านที่รังสิต และส่งชำระหนี้บัตรเครดิต เคยปล่อยให้คนเช่า ด้วยความที่อยู่ไกลถึงสุราษฎร์ ไม่มีใครคอยดูแลบ้านท้างโน้น เราก็โดนคนเช่าย้ายหนี้ ค้างค่าเช่า น้ำไฟ ค่าส่วนกลาง โดนยกหม้อมิเตอร์ไป และประจวบเหมาะกับทางใต้น้ำท่วมหนัก เราเลยค้างเงินส่งชำระบ้าน เกือบ 3 เดือน จนแบ๊งค์โทรตาม (แบ๊งค์ไทยเครดิต) เราประนอมหนี้กับแบ๊งค์ไปครั้งหนึ่งแล้ว จะครบปีเดือนตุลานี้ จากที่ต้องจ่ายแค่ 8000 บาท เราต้องจ่ายเพิ่ม 14500 บาท ซึ่งเยอะสำหรับเรามาก อ้อ.. จริง ๆหนี้บ้านประมาณ หนึ่งล้านสี่แสนกว่า ๆ (ตอนนั้น) แต่แบ๊งค์ไทยเครดิตช่วยจ่ายเครดิตแทนแบ๊งค์อื่น ๆ มาเป็นหนี้แบ๊งค์เขาแทนประมาณ ห้าแสนกว่าบาท โดยใช้ชื่อว่าวงเงินสินเชื่อส่วนที่ 2 (ส่วนแรกคือบ้าน) เวลาจ่ายแยกเป็นจ่ายสองส่วน ไม่ได้รวมกัน แต่ถ้าจะปิดยอดชำระหนี้ แยกปิดไม่ได้ ต้องปิดจ่ายทั้งสองยอดพร้อมกัน ตอนนี้พยายามยอมเลี้ยงจ่ายส่วนที่ค้างไป 1 งวดเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ครบ 3 งวด ตามที่แบ๊งค์บอกว่าถ้าครบจะดำเนินคดี ดิฉันแก้ไขปัญหาโดยการลงประกาศขายบ้านแบบไม่หวังกำไรอะไรเลย ขอแค่ไม่ให้เข้าเนื้อเพราะไม่มีเงินนอกเหนือจะจ่าย แต่ก็ยังขายไม่ได้ มีคนมาขอดูบ้านหลายคน แต่ที่ดิฉันต่อเติมหน้าบ้านไปมันร้าว คนมาดูก็ลังเล ทั้ง ๆที่สภาพตัวบ้านเดิมไม่มีปัญหาอะไร ทำเลก็ดีค่ะ ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ บางคนก็แนะนำให้ปล่อยให้ยึด บางคนก็บอกว่าไปคุยกะแบ๊งค์ แต่เรื่องคุยกะแบ๊งค์เนี่ย คุยมาตลอด บอกว่าขอจ่ายแค่ของบ้านก่อนได้ไหม จะได้บอกขายถูก ๆ ส่วนที่วงเงินสินเชื่อส่วนที่ 2 จะทยอยส่งได้ แบ๊งค์ก็บอกไม่ได้ ต้องปิดหมด ประนอมกับแบ๊งค์ว่าดอกที่พรวดๆ ขึ้นตอนนี้ขอลดลงหน่อยได้ไหม มีคนจะมาซื้อ จ่ายเงินสด แต่ขอเท่านี้ แบ๊งค์ก็ไม่ให้ลด พอโทรบอกว่าอยากปรึกษาคุยกับผู้จัดการแล้วแจ้งกลับหน่อย ไม่มีใครโทรกลับ แต่วันหยุดโทรมาหาได้ คือโทรมาทางยอดค้าง..... ส่วนหนี้บัตรเครดิต ตอนนี้ไปแสนหกแล้วยังไม่มีปัญญาจะไปโป๊ะปิดมัน
ดิฉันไม่ได้กู้ร่วมกับสามี แต่จดทะเบียนสมรสกันมาตั้งแต่แต่งงาน อยากทราบว่ามันจะมีผลใด ๆกับดิฉันไหมคะ รถในชื่อของดิฉันเขาจะมายึดด้วยได้ไหมคะ
และถ้าปล่อยให้ยึด กรณีของสามีที่ไม่มีทรัพย์สินใด ๆเลย และไม่ได้ทำงานที่ไหน อย่างนี้ปล่อยให้ยึดบ้านไปมีผลดี-ผลเสียมากน้อยแค่ไหน
ที่ค้างบัตรเครดิต KTC ปล่อยทิ้งไปเลยจะโดนฟ้องสองเด้งไหมคะ ข้อเสียมากน้อยแค่ไหน
กำลังชั่งใจว่าควรจะอย่างไรดี อาจถามสับสน หรือเล่าสับสน เพราะตอนนี้ทั้งเครียดสับสนจริง ๆค่ะ
รบกวนหน่อยนะคะ มืดมนจริง ๆ ขอบคุณค่ะ