เรียน อาจารย์ มีชัย
หมู่บ้านผมจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อ ก.พ.46 และมีประตูเข้าออกหมู่บ้านเพียงประตูเดียว ตอนจดทะเบียนมีลูกบ้านหลังหนึ่งเจาะรั้วที่ใช้ล้อมรอบหมู่บ้านและอยู่ในบริเวณบ้านของเขาเป็นช่องทางเพื่อใช้เป็นทางเข้าออกไปหาญาติซึ่งอยู่ภายนอกหมู่บ้าน ซึ่งขณะนั้นทางนิติบุคคลก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นว่าเป็นคนดังเดิมแถวนี้คงอยากสะดวกที่จะไปมาหาสู่ญาติซึ่งอยู่หลังหมู่บ้านและลูกบ้านหลังนี้ก็ใช้ทางนี้เข้า-ออกเฉพาะสมาชิกในบ้าน 2-3 คนเท่านี้น ต่อมาปรากฏาว่ามีบุคคลภายนอกซึ่งเป็นญาติของลูกบ้านหลังนี้หลายคนใช้ช่องทางนี้เป็นทางลัดไปทำกิจธุรหน้าหมู่บ้าน ทำให้ระบบ รปภ. หมู่บ้านมีปัญหา ในการประชุมใหญ่เมื่ มี.ค.47สมาชิกมีมติให้คณะกรรมการทำการเจรจาให้ลูกบ้านคนนี้ปิดช่องทางนี้เสีย และถ้าไม่ยอมปิดก็ให้นิติบุคคลก่อกำแพงอิฐบนพื้นที่ส่วนกลางปิดหน้าประตูเข้า-ออกเสีย คณะกรรมการหมู่บ้านเจรจาแล้วลูกบ้านก็ไม่ยอมปิด แต่ก็ไม่ได้ก่อกำแพงอิฐปิดช่องทาง จากนั้นก็มีคนภายนอกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเมื่อ ก.ย.53 คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหารนิติบุคคล เห็นว่ามติที่ประชุมใหญ่ที่ให้ก่อกำแพงอิฐปิดช่องทางเมื่อปี 47 ยังไม่ได้ทำและเห็นว่าหมู่บ้านไม่ปลอดภัยมากขึ้น จึงได้ก่ออิฐปิดช่องทางเข้าออกนี้เสีย แต่ก่อนปิดก็ได้เจรจาอีก พร้อมปิดป้ายแจ้งผู้ใช้เส้นทางนี้ทราบ และได้ไปแจ้งตำรวจไว้ด้วย ในที่สุดนิติบุคคลก็ถูกลูกบ้านที่เจาะรั้วฟ้องเป็นจำเลยฐานละเมิดและขอให้รื้อเอากำแพงอิฐออกไปจากหน้าประตูเสีย พร้อมเรียกค่าเสียหายห้าหมื่นบาท ต่อสู้กันในชั้นศาลนิติบุคคลแพ้คดี ศาลให้รื้อกำแพงอิฐออกแต่ไม่ต้องเสียค่าเสียหาย ตอนแรกที่ลูกบ้านฟ้องก็บอกให้ทนายฟ้องแย้งไปว่าเขาต่างหากที่ละเมิดไปเจาะรั้วรอบหมู่บ้านเขาควรจะต้องปิดช่องทางนั้นเสียเอง แต่ทนายแนะนำว่าคดีขาดอายุความหลายปีแล้วเพราะนิติบุคคลเน้นแต่การเจรจาเพราะไม่อยากมีคดีความกับลูกบ้าน ในขณะนี้นิติบุคคลจะอุธรณ์ก็ไม่ได้ กำลังจะรื้อกำแพง แต่ถ้าเปิดช่องทางนี้ไว้อย่างนี้ก็จะมีคนผ่านเข้าออกอีก ลูกบ้านอื่นเมื่อเห็นว่าไม่ปลอดภัยก็จะไม่เสียค่าส่วนกลางเพื่อมาจ้าง รปภ.และบำรุงดูแลสาธารณูปโภค สุดท้ายนิติบุคคลคงดำเนินไปไม่ได้ต้องขอจดทะเบียนเลิกในที่สุด อยากจะขอคำแนะนำจากอาจารย์ว่า นิติบุคคลจะมีช่องทางกฏหมายอย่างไรบ้างเพื่อให้ปิดช่องทางนี้ก่อนที่จะเปิดกำแพงอิฐตามคำสั้งศาล
ขอบคุณครับ
อุดร