เรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ
ผมมีข้อสงสัยรบกวนท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะครับ
ยายยกที่ดินให้แม่ผมและครอบครัวได้ทำกินปลูกข้าวประมาณ 8 ไร่ ที่ดินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่เนื้อที่ 16 ไร่ แม่ผมทำกินในที่ดินดังกล่าวมาแล้วกว่าสามสิบปี แต่ที่ดินดังกล่าวในเอกสารโฉนด เป็นโฉนดปี 2540 แม่ยังไม่ได้โอนจากชื่อยายมาเป็นชื่อแม่เนื่องจากยากจน ต่อมาแม่ผมเสียชีวิตในปี 2547 แต่พ่อก็อาศัยทำกินต่อเรื่อยมา หลังจากแม่เสียชีวิตสามเดือน น้าคนเล็กได้มาขอผมกับพี่น้องว่าขอยืมที่8ไร่ที่ครอบครัวผมทำกินดังกล่าวไปเข้าธนาคารแล้วทำธุรกิจ จะแบ่งปันผลกำไรให้และจะโอนที่คืนให้ภายในสองปี โดยพูดต่อหน้าผมกับยาย ยายจึงยอมโอนที่ดังกล่าวให้น้า สองปีต่อมาผมทวงถามที่คืนน้าก็บ่ายเบี่ยง ไม่ยอมคืนที่ให้และในที่สุดก็ได้ให้ทนายมาฟ้องขับไล่พ่อผมและบริวารออกจากที่ดินนั้น เรื่องยังอยู่ในชั้นศาลครับศาลยังไม่ตัดสินออกมา
คำถามครับ
1 ยายยกที่ดินดังกล่าวให้แม่โดยกฏหมายแล้วแม่ผมกับพ่อได้ครอบครองปรปกษ์แล้วใช่หรือไม่ครับ เพราะทำกินต่อเนื่องเปิดเผยเป็นเจ้าของมาโดยตลอด
2 การที่น้าหลอกให้ผมกับพี่น้องอนุญาตให้ยายโอนที่ดินให้แล้ว ทำการฟ้องขับไล่พ่อผมกับพวกผมออกจากที่ดินในภายหลัง อย่างนี้เป็นการลักทรัพย์โดยใช้กลอุบายหรือไม่ครับ
1. อันที่จริงที่ดินนั้นเดิมเป็นของยาย การยกให้แม่คุณโดยไม่ได้มีการโอนกันทางทะเบียน การยกให้นั้นจึงไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อการที่แม่คุณครอบครองมาโดยเปิดเผยโดยสงบและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของครบ ๑๐ ปี จึงตกเป็นของแม่คุณโดยการครอบครองปรปักษ์ การโอนให้น้าโดยไม่มีค่าตอบแทน จึงสามารถนับอายุความต่อเนื่องกันได้ เวลาไปสู้คดีในศาลก็ต้องสู้ให้ถูก แต่อย่างไรก็ตามถ้าน้าเอาที่ดินนั้นไปจำนองไว้ เวลาคุณได้กลับคืนมาก็อาจต้องชำระหนี้นั้นแทนน้าได้
2. การที่เขามาขอให้คุณโอนที่ดินให้แล้วสัญญาว่าจะโอนคืนให้ เมื่อถึงเวลาเขาไม่โอนคืนให้ ไม่ได้เป็นความผิดทางอาญา เป็นเรื่องผิดนัดทางแพ่ง