ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    045690 ต้องการไถ่ที่ดินคืนจากธนาคาร (ที่นำไปผูกบัญชีเงินกู้รวมกับบ้านที่ผ่อนไม่ไหวและถูกยึดทรัพย์ไป)ลูกสาว แม่ ก.26 กันยายน 2554

    คำถาม
    ต้องการไถ่ที่ดินคืนจากธนาคาร (ที่นำไปผูกบัญชีเงินกู้รวมกับบ้านที่ผ่อนไม่ไหวและถูกยึดทรัพย์ไป)

    สวัสดีค่ะอาจารย์มีชัย ดิฉันขอใช้ชื่อย่อแทนการอธิบายเรื่องราว ดั

    ต่อไปนี้ค่ะ (โดยคร่าวๆ)

     

    ปี 2538 นาง ก. ได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งประมาณ 2 แสนบาทด้วยการกู้ธนาคาร ข. แล้วค่อยๆผ่อนมาเรื่อยๆ

    ขณะเดียวกัน นาง ก. ก็ได้ซื้อบ้านหลังหนึ่งมูลค่า 1 ล้านบาทด้วยการกู้จากธนาคาร ข. ในชื่อของ นาง ก. อีกเช่นกัน

    แล้วก็ผ่อนมาเรื่อยๆ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ปี 2548 นาง ก. มีภาระเยอะมากๆ ทำให้ไม่สามารถชำระเงินกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ข. ได้ ในขณะที่ยังคงผ่อนที่ดินแปลงนั้นจนหมด (เนื่องจากมูลค่าเงินงวดต่ำกว่ามาก)

    ทำให้ถูกธนาคารแจ้งจะฟ้องร้องและถูกเจ้าหน้าที่ของธนาคารแนะนำให้ไปที่ศาลเพื่อไกล่เกลี่ย โดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารบอกเพียงแต่ว่า ให้นำเงินจำนวน 1 แสนบาทไปยื่นที่ศาล แล้วจะได้โฉนดที่ดินที่ตนเองผ่อนหมดไปแล้ว คืนกลับมา (ทั้งๆที่มันคนละบัญชีและสัญญากัน)

    นาง ก.รวบรวมเงินจำนวน 1 แสนบาทเพื่อนำไปจ่ายให้ธนาคาร     ในขณะจ่ายเงิน นาง ก. ก็ถูกเจ้าหน้าที่ให้เซ็นเอกสารฉบับนึง

    และคิดว่า เรื่องคงจะจบลง  คิดว่าจะได้ที่ดินคืนมา

    ----------------------------------------------------------------------------------------

    แต่ปรากฏว่าเรื่องมันไม่จบแค่นั้น 

    เพราะต่อมา ธนาคาร แจ้งว่า ต้องนำเงินที่เหลือ (ประมาณ 8 แสนบาท ) ไปชำระก่อน ถึงจะได้ทรัพย์สินทั้งหมดคืนมา อันได้แก่ ที่ดิน และ บ้าน รวมกัน เนื่องจาก นาง ก. ได้เซ็นสัญญาในคราวก่อนไว้ว่า จะยอมรับว่าที่ดินกับบ้านเป็นบัญชีเดียวกัน

    สรุปคือ นาง ก. จะไม่ได้ที่ดินคืนอย่างแน่นอน ถ้าไม่นำเงินไปจ่ายทั้งๆที่จ่ายเงินครบแล้ว แต่ดันถูกเจ้าหน้าที่ของธนาคารนำพาคนที่ไม่รู้กฏหมายเข้าไปเซ็นสัญญาด้วยคำมั่นว่าจะปล่อยที่ดินคืนมาให้

    ----------------------------------------------------------------------------------------------

    ต่อมา นาง ก.โทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารอีกครั้งว่า จะมีทางไหนนำที่ดินคืนมาได้บ้าง เจ้าหน้าที่ธนาคารก็บอกว่า ให้นำเงินมา 350,000 เพื่อมารับที่ดินคืนไป

     

     

    ถามว่า นาง ก. จะต้องทำอย่างไรบ้าง ถึงจะนำที่ดินคืนมา

    ปัจจุบัน ปี 54   นาง ก. หาเงินมาได้ก้อนนึง แล้วจะนำไปไถ่ที่ดินคืน ไม่ทราบว่า ควรจะทำอย่างไรได้บ้าง

     

     

     

    คำตอบ
    ปัญหาของคุณอยู่ตรงที่ว่า คุณเชื่อคำพูดของคนโดยไม่ดูเอกสาร เขาบอกว่าฟ้องศาลแล้วคุณก็เชื่อ เขาบอกให้ไปศาลเอาเงินไปชำระ แต่แทนที่จะชำระที่ศาลคุณก็ไปชำระที่ธนาคาร (คงจะทำตามที่เขาบอก) เขาให้เซ็นเอกสาร คุณก็คงไม่ได้อ่าน โดยเชื่อว่าเอกสารนั้นคงจะปลดคุณออกจากหนี้  ที่พูดทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าจะซ้ำเติม แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า ปัญหาของคุณซึ่งไม่ควรมีนั้น เกิดมีขึ้นจนหาทางออกไม่ได้ก็เพราะเชื่อคำพูดของคนโดยไม่อ่านเอกสาร  ทางออกของคุณในขณะนี้ที่ต้องทำเป็นเบื้องแรก ก็คือมีหนังสือไปยังธนาคารให้เขาส่งมอบโฉนดที่ดินให้คุณ โดยแจ้งให้เขาทราบว่า คุณได้ชำระหนี้สำหรับที่ดินนั้นหมดแล้ว (ควรไปรื้อสัญญากู้ยืมที่มีอยู่เดิมเอามาอ่านให้ละเอียด) ถ้าเขาอ้างว่ายังคืนให้ไม่ได้เพราะคุณได้ไปลงชื่อรับสภาพหนี้หรือเอาที่ดินไปเป็นประกันหนี้อีกรายหนึ่งแล้ว คุณก็ต้องขอเขาดูเอกสารที่คุณลงชื่อไป แล้วนำเอกสารทั้งหมดไปร้องต่อ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือหาทนายความฟ้องร้องธนาคารต่อไป   แต่เวลาจะไปหาใครต่อไปนี้ ก็ควรอ่านเอกสารที่เกี่ยวข้องทุกอย่าง โดยเฉพาะอะไรที่จะต้องลงชื่อ ก็ต้องอ่านจนเข้าใจ ถ้ายังไม่เข้าใจก็อย่าลงชื่อเป็นอันขาด ใครจะว่าอ่านช้า โง่ หรืออะไรก็ตามทีก็อย่าลงชื่อจนกว่าจะอ่านแล้วรู้ว่าการลงชื่อนั้นมีผลอย่างไรบ้าง
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    26 กันยายน 2554