การบุกรุกที่ดิน
กองทัพขอใช้ที่ดินจากกรมป่าไม้ 30 ปี แล้วนำที่ดินที่ได้รับอนุญาตไปให้สิทธิอาศัยและทำกินเพื่อตอบแทนในการช่วยรบกับราษฏรอาสา โดยมีเงื่อนไขว่า ห้ามขาย ห้ามโอนให้บุคคลอื่น ยกเว้นสืบทอดทางมรดก และให้ทำการเกษตรเท่านั้น ซึ่งต่อมาสภาพดินเสื่อมโทรม ทำอะไรไร้ผลไม่คุ้มทุน มีหนีสินรุงรังจึงขายให้นายทุนทำรีสอร์ท บ้านพัก โดยการเลี่ยงระเบียบเงื่นไข เช่น ทำสัญญาร่วมทุน หนังสือยินยอมให้อยู่ในที่ดิน ลงทุนจดทะเบียนสมรส หรือเป็นบุตรบุญธรรมก็มี ต่อมาการขอใช้ที่ดินหมดอายุลง กรมป่าไม้ไม่อนุญาตให้ใช้ที่ดินต่อคำถาม ก็คือ.-
1.กองทัพ ยังมีสิทธิที่จะใช้ที่ดินอยู่หรือไม่ ในเมื่อการขอใช้พื้นที่พ้นกำหนดตามที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว กองทัพยังไม่ได้ส่งมอบพื้นที่คืนกลับไปให้กรมป่าไม้ อำนาจการดำเนินคดีกับราษฏรอาสาที่ทำผิดเงื่อนไข ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
2.เงื่อนไข ที่กองทัพใช้บังคับกับราษฎรอาสาข้างต้น(ซึ่งมิใช่กฏหมาย) ในเมื่ออายุการขอใช้พื้นที่หมดไปแล้ว เงื่อนไขจะหมดไปตามอายุการขอใช้พื้นที่ไปด้วยหรือไม่
3.พื้นที่ กองทัพขอใช้ประโยชน์(บางแปลง) ไม่กำหนดระยะเวลาการขอใช้ อันเป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ ที่อนุมัติโดยคณะรัฐมนตรีให้ระยะเวลาไม่เกิน 30 ปี นั้นจะมีผลให้กองทัพใช้สิทธิการใช้อยู่ต่อไปหรือไม่
4.กองทัพอ้างว่า จะปลดราษฏรอาสาที่ทำผิดเงื่อนไข ที่ได้ขายเปลี่ยนมือ ทำที่พัก ในที่ดินที่กองทัพอนุญาตต่อจากกรมป่าไม้ ได้หรือไม่ ( การแต่งตั้งราษฏรอาสา โดยมีคำสั่ง/บรรจุเป็นรอส.โดย คำสั่งของกองทัพภาค และคำสั่ง กอ.รมน.ในขณะนั้น)
5.การดำเนินคดีกับราษฎรอาสาในข้อหาบุกรุกที่ดินป่าสงวนฯ น่าจะเป็นการแจ้งข้อหาที่ผิดพลาด ซึ่ง รอส.ได้รับสิทธิให้อาศัยและทำกิน หากจะผิดก็น่าจะผิดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่สร้างบ้านพัก/รีสอร์ทให้เช่า ทั้งที่ผ่านมานับสิบปี กองทัพ / กรมป่าไม้ ปล่อยให้สร้างโดยมิได้ขัดขวางแต่อย่างใด
ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับ ที่ช่วยกรุณาตอบ มีผู้ที่เดือดร้อนจำนวนมากที่รอคำตอบจากท่าน และขอให้ท่านจงเป็นคลังแห่งความรู้ เป็นที่พึ่งของสาธารณะชนที่อย่างจะไขข้อข้องใจให้กับประชาชนตลอดไปครับ
|