เรียนท่านอาจารย์มีชัย

ผมมีคำถามที่หนักใจมานานแล้วในเรื่องของ กกต. กล่าวคือ เจตนารมณ์ของรธน.ที่ได้ตั้ง กำหนดบทบาท พร้อมทั้งให้อำนาจแก่กกต.มานั้น ก็เพื่อวัตถุประสงค์หลักอันเดียวคือ การจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ปรากกฎว่า กกต.มิอาจดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรธน.ได้เลย  เห็นได้จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซื้อเสียงกันเกือบทุกเขต ทั้งประเทศ แต่ไม่มีใบแดงซักใบเดียว 

ผมเองอายุเพียงแค่ 31 ปี แต่ได้ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว 3 ครั้ง (แพ้ทุกครั้ง) ทำให้ได้เห็นว่าการเลือกตั้งของประเทศไทยนั้นสกปรกแค่ไหน

ตอนนี้ประเด็นการแก้รธน.กำลังเป็นที่ถกเถียงกันให้วุ่นวาย ขัดแย้งกันมาก ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ประเด็นที่ถกเถียงหรือที่กำลังทะเลาะกันอยู่นั้น มันสำคัญอะไรตรงไหนยังไง ไม่เห็นมีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรซักมาตราที่เสนอกันว่าจะแก้นั้น แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไปพัฒนาประเทศ 

แต่ไหนๆถ้าจะแก้แล้วผมอยากปรึกษาท่านอาจารย์ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะยกเลิกสถานะการเป็นองค์กรอิสระของกกต. แล้วโอนย้ายเจ้าหน้าที่ของกกต.ไปอยู่ภายใต้หน่วยงานศาล เนื่องจากข้อเท็จจริงปรากฎว่า กกต.ในปัจจุบัน ไม่มีอิสระในการตัดสินใจอย่างแท้จริง เช่น กกต.จังหวัดมีข้อมูลการซื้อเสียงแต่ไม่กล้าดำเนินการกับผู้สมัครที่ทำผิด เพราะกลัวถูกย้าย หรือถูกยิง เป็นต้น  ที่เค้ากลัวเพราะเค้าไม่มั่นใจว่าองค์การที่เค้าสังกัดอยู่นั้นจะให้ความคุ้มครองเค้าได้ แต่หากจากตัวอย่างเดียวกันนี้ กกต.จังหวัดท่านเดิม แต่อยู่ภายใต้หน่วยงานของศาล ผมคิดว่าเค้าน่าจะกล้าทำอะไรมากขึ้น เพราะสังเกตจากสภาพสังคมไทยปัจจุบันมีเพียงศาลเท่านั้นที่ไม่กลัวนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลต่างๆ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

ธันวา ไกรฤกษ์

ความผิดพลาดของระบบ กกต. คือ การเข้าไปจัดการเลือกตั้งเสียเอง เมื่อทำเช่นนั้น กรรมการจำนวน ๕ คน จึงไม่มีปัญญาที่จะดำเนินการได้ ต้องไปตั้ง กกต.จังหวัด ซึ่งกระบวนการคัดเลือกไม่อาจทำให้แน่ใจได้ว่าจะได้คนที่เป็นกลางจริง  ส่วนใหญ่จึงเป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นคนของพรรคการเมือง ในการจัดการเลือกตั้งและควบคุมการเลือกตั้ง กกต.จึงต้องอาศัยคนเหล่านั้น โดยไม่ได้รู้เห็นด้วยตัวเอง ต้องฟังจาก กกต.จังหวัดรายงานมา ถ้า กกต.จังหวัดไม่เป็นกลางเสียแล้ว ข้อมูลที่ได้รับจึงอาจถูกบิดเบี้ยวได้ นอกจากนั้น เมื่อตัวเองเป็นคนจัดการเลือกตั้ง เวลาจะให้ใบแดงใบเหลือง ก็มักจะกลัวหยิกเล็บแล้วเจ็บเนื้อ  เวลานี้ กกต.  ออกกฎเอง ดำเนินการเอง ควบคุมเอง แล้วตัดสินเอง จึงเกิดปัญหาอย่างที่คุณบ่นมา ถ้าโอนไปให้ศาลก็จะไม่ต่างกัน ทางออกที่ดีก็คือ การแยกหน่วยที่จัดการเลือกตั้งออกจาก กกต.ให้ได้  กกต.เหลือแต่อำนาจในการออกกฎ แล้วควบคุมและวินิจฉัย บางทีอาจจะดีขึ้น