กระผมและภรรยา ได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินแปลงหนึ่งเป็นลายลักษณ์อักษร มีการลงนามทั้งผู้ซื้อ ผู้ขายและพยาน โดยใช้สำเนาที่ดินแปลงดังกล่าวที่ผู้ขายรับรองสำเนาถูกต้องเป็นเอกสารประกอบการทำ
สัญญาซื้อขาย และได้จ่ายเงินให้กับผู้ขายแล้ว แต่ทราบในภายหลังว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวผู้ขายได้นำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันบุคคลในการทำงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากการสอบถาม ผู้ขายแจ้งว่า กำลังดำเนินการเปลี่ยนหลักทรัพย์ในการค้ำประกันบุคคลอยู่ ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 1 ปี ซึ่งขณะนี้เวลาล่วงเลยมา 1 ปีกว่าแล้ว การดำเนินการก็ยังไม่แล้วเสร็จ กระผมยังไม่ได้รับการโอนกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด ใคร่เรียนถาม ดังนี้
1. การดำเนินการเปลี่ยนหลักทรัพย์ในกรณีดังกล่าวใช้ระยะเวลานานเท่าใด
2. หากปล่อยเวลาล่วงเลยผ่านไป โดยไม่มีการติดตาม จะมีผลต่อการทำสัญญาครั้งนี้หรือไม่
3. การทำสัญญาซื้อขายในครั้งนี้ มีโอกาสเป็นโมฆะหรือไม่
4. กระผมควรอดทนรอต่อไป หรือควรดำเนินการอย่างไร เพื่อให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในดินแปลงนี้ตามสิทธิที่พึงได้
1. ถ้าทำกันจริง ๆ ก็คงไม่เกินเดือนสองเดือน แต่ปกติคนที่เขารับประกันไว้นั้นเขามักไม่ค่อยยอมให้คืนได้ง่าย ๆ หรอก เว้นแต่จะเอาหลักทรัพย์ที่มีค่าใกล้เคียงกันไปค้ำประกันแทน
2.-3 ถึงจะผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่มีผลอะไร เพราะที่คุณทำกันนั้นก็ไม่ได้เป็นการซื้อขายอะไร เป็นแต่เพียงสัญญาจะซื้อจะขายเท่านั้น เขามีที่ดินจริงหรือไม่คุณก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเขามีสำเนาโฉนดที่ดิน สำเนานั้นจะถ่ายตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ การที่เขาลงชื่อรับรองว่าเป็นสำเนาถูกต้องนั้น เขาก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะถ้าเขาถ่ายมานานแล้วก่อนที่เขาจะขายให้คนอื่น สำเนานั้นก็ย่อมถูกต้องอยู่ดี การซื้อขายที่ดินเขาต้องนำโฉนดตัวจริงไปจดทะเบียนโอนกันที่สำนักงานที่ดินพร้อมทั้งจ่ายเงิน เป็นการยื่นหมูยื่นแมว การซื้อขายกันเองโดยที่ผู้ซื้อจ่ายเงินให้ไปหมดแล้ว นั้น ไม่เคยปรากฏว่าผู้ซื้อได้ที่ดินสักราย ส่วนใหญ่มักถูกเบี้ยวทั้งนั้น ใครทำอย่างนั้นแล้วได้รับการโอนที่ดินก็เท่ากับถูกรางวัลที่หนึ่ง
4. รีบนัดให้เขาไปทำการโอนที่ดินให้คุณภายในเวลาที่กำหนด เช่น ภายใน ๑ เดือน ถ้าพ้นแล้วคุณก็บอกเลิกสัญญา แล้วเรียกเงินคืน ซึ่งก็คงไม่ได้เงินคืนง่าย ๆ คงต้องฟ้องศาล เมื่อชนะคดีแล้วก็ค่อยไปบังคับคดียึดทรัพย์เขามาขาย แต่ถ้าเขาไม่มีทรัพย์อะไรให้ยึด ก็คงได้แต่นึกว่าเป็นกรรมแต่ปางก่อน
ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำมากนัก ก็ลองค่อย ๆ มาอ่านคำถามคำตอบของคนอื่น ๆ ในหมวดต่าง ๆ ไว้เป็นความรู้บ้าง บางทีชีวิตอาจจะปลอดภัยมากขึ้น ถ้าอยากรู้เรื่องที่ดิน ก็อ่านในหมวดที่ดิน