เรียน ท่านอาจารย์มีชัย
ทางผมเป็นผู้ว่าจ้าง ได้ว่าจ้างให้ตัวแทนขนส่งสินค้า ทำหน้าที่ส่งสินค้าตามที่อยู่ที่กำหนดให้จัดส่ง และทางผู้รับจ้าง ได้แจ้งยอดวางบิลตามใบแจ้งหนี้มาให้ผม ซึ่งทางผมได้ตรวจสอบแล้ว ตรงตามที่แจ้งมา แต่บังเอิญทางผมได้โอนเงินไปให้ก่อนหลายคร้ง ทาง ATM ซึ่งมีหลักฐานสลิปที่เก็บไว้ สำหรับการขอเบิกล่วงหน้า
สุดท้ายผู้รับจ้างไปฟ้องว่า ผมไม่ชำระค่าจ้างขนส่งเป็นจำนวนหลักแสน ซึ่งความจริงยอดที่คงค้างจ่ายเป็นยอดหลักหมื่นเท่านั้น และทางผมไม่ได้ไปศาลตามหมายเรียก เพราะทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่ทราบมาก่อนว่ามีหมายฟ้องมาที่บ้าน สุดท้ายผมได้ไปที่ศาลขอตรวจสอบข้อมูล ปรากฏว่า ศาลได้ตัดสินคดีเรียบร้อยแล้ว ทางผมเป็นฝ่ายแพ้คดีความ สุดท้ายนี้ผมต้องทำอะไรบ้าง ต้องชำระหนี้ตามยอดฟ้องหรือไม่ และต้องการสู่คดีใหม่ทำได้หรือเปล่าครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอบพระคุณมากครับ หลังจากได้คำแนะนำในคราวหน้า ครับ
การต่อสู้คดีในศาลนั้น ศาลท่านฟังเฉพาะพยานหลักฐานที่นำมาสู่ศาล ถ้ามีข้อโต้แย้ง ก็ต้องโต้แย้งกันตอนนั้นเพื่อศาลจะได้ชั่งน้ำหนักว่าจะควรฟังพยานฝ่ายไหน แต่ถ้าไม่ไปศาลศาลก็ได้แต่ข้อมูลฝ่ายเดียว ที่เรียกว่าฟังความข้างเดียว จะโทษศาลก็ไม่ได้เพราะกฎหมายกำหนดไว้อย่างนั้น ถ้าจำนวนเงินที่ศาลพิพากษาให้คุณชำระมันต่างจากความเป็นจริงมาก คุณก็อาจไปหาทนายความเพื่อให้เขาไปยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ แต่จะต้องมีเหตุผลว่าที่คุณไม่ได้ไปศาลนั้นเป็นเพราะอะไร และเหตุนั้นต้องไม่ใช่ความผิดอันจะโทษคุณได้ ศาลก็อาจสั่งให้พิจารณาใหม่ได้ ลองไปปรึกษาทนายความดูเถอะ แต่ทั้งหมดนั้นก็จะต้องมีค่าใช้จ่าย จึงต้องคำนวณดูว่าจะคุ้มกันหรือไม่ หรือจะยอมกัดฟันจ่ายไป แล้วคิดเสียว่าเป็นบทเรียน