คำถามที่ 047092 ขออนุญาตถามต่อเนื่อง
กราบเรียน ท่านอาจารย์มีชัย ฟชุพันธ์ ที่เคารพอย่างสูง
ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ท่านอาจารย์ กรุณาได้ตอบปัญหาคำถามแก่ผู้ร้อง ได้รวดเร็ว ทั้งที่ปัจจุบันท่านไม่ได้รับราชการแล้ว ปัญหาคำถามดังนี้
1.ผู้ร้องจะนำคำแนะนำของท่านไปปฏิบัติ แล้วจะไม่มีปัญหาใดๆในภายหลังถูกต้องใช่ไหมท่าน
2.สภาทนายความเคยบอกว่าจะต้องร้องทุกข์กับตำรวจก่อน ก่อนที่เราจะไปฟ้องคดีอาญากับเจ้าพนักงานของรัฐ ผู้ร้องมีเอกสารหลักฐานแล้ว รู้ขั้นตอนว่าเขาฟ้องกันที่ศาลอาญาจังหวัดแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไปแจ้งความตามที่ท่านแนะนำถูกต้องไหมเพราะไม่ต้องการใช้ทนายความ ด้วยผู้ร้องกล้าที่จะโต้แย้งกับเจ้าพนักงานของรัฐ
3.ผู้ร้องถามปัญหาท่านในฐานะผู้เสียหายในคดีความอาญา อยากถามว่าถ้าเจ้าพนักงานไม่ปฏิบัติดังนี้จะแจ้งข้อหาความผิดข้อใดอะไรบ้าง
3.1 ละเว้นไม่ปฏิบัติดำเนินการกับผู้ต้องหาคดีอาญา ตามที่ประมวลกฎหมายอาญามีมาตราบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด
3.2 ละเว้นไม่ปฏิบัติดำเนินการกับผู้ต้องหาคดีอาญา ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มีมาตราบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด
3.3 ละเว้นไม่ปฏิบัติดำเนินการกับผู้ต้องหาคดีอาญา ตามที่กฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มีมาตราบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด
3.4 ละเว้นไม่ปฏิบัติดำเนินการกับผู้ต้องหาคดีอาญา ตามที่กฎหมาย พ.ร.บ.ประกันวินาศภัยมีมาตราบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด
3.5 ละเว้นไม่ปฏิบัติดำเนินการกับผู้ต้องหาคดีอาญา ตามที่กฎหมายโดยเบี่ยงเบนข้อกล่าวหา เราแจ้งว่า ลักทรัพย์ ฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร แต่เจ้าพนักงานกลับพยายามบอกให้เราอย่าสืบเรื่องราวต่อให้ยาวเลย โดยเจ้าพนักงานอ้างว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เราเสียหาย
4.เรารู้ว่ามีการทุจริตของเจ้าพนักงานของรัฐแต่เราไม่มีหลักฐาน แต่มีการกระทำของเจ้าพนักงานในตอนแรกกับตอนก่อนฟ้องหน้ามือเป็นหลังมือ จะฟ้องข้อหาใดได้ไหม
5.บริษัทประกันภัยรู้เรื่องว่ามีการลักทรัพย์ยักยอกปลอมเอกสาร ของผู้ต้องหาแต่ไม่ยอมให้สำเนากรมธรรม์ภาคสมัครใจแก่เรา จำทำอย่างไร
6.ประกันภัยชั้น 1 ภาคสมัครใจไม่ยินยอมจ่ายค่าทรัพย์สินเสียหายแก่เรา โดยอ้างว่าจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปครบ 1 ล้านแก่โรงพยาบาลแล้ว ทั้งที่ข้อกำหนดว่าไว้ต้องจ่ายค่าทรัพย์สินเสียหายด้วย เราจะต้องดำเนินคดีบริษัทประกันภัยข้อหาใดบ้าง
7.ถ้าวันที่ 24 เมษายน 2550 ผู้ต้องหามีความผิดอาญาจราจรทางบกครั้งที่ 1 ต่อมาวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 ผู้ต้องหาได้ลักทรัพย์ยักยอกฉ้อโกงค่าสินไหมจากกรมธรรม์ประกันภัยโดยแอบอ้างเป็นเราเพื่อประโยชน์ของผู้ต้องหาครั้งที่ 2ในเมื่อเป็นเรื่องเดียวกันมันจะเป็นคดีความอาญารวมเป็นคดีความอาญากระทำกรรมเดียวเรื่องเดียวกันได้ไหมให้พนักงานสอบสวนฟ้องเป็นเรื่องเดียวในคราวเดียวกันได้ไหม ถ้าคดีอาญาที่ 1 ฟ้องให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาวันที่ 9 ตุลาคม 2550 แล้ว
8.ทำไมเจ้าพนักงานบอกว่าเป็นต่างกรรมต่างวาระ เขาไม่ได้ฟ้องไปพร้อมกันเป็นคดีเดียวเพราะอะไร ในเมื่อมันเป็นเรื่องเดียวกันผ่านไปหลายเดือนเจ้าพนักงานจึงยอมไปส่งฟ้องศาลคดีอาญาที่ 1 ไม่เข้าใจ
9.เราขอสำเนากรมธรรม์ภาคสมัครใจจากบริษัทประกันภัยผู้ต้องหา แต่เขาไม่ยอมให้เราเขาบอกว่าเอกสารส่วนบุคคล ทั้งที่เป็นคดีความเรื่องของเรา จะทำอย่างไรดี
10.เจ้าพนักงานของรัฐไม่ยอมให้เอกสารสำนวนคดีครบถ้วนแก่เราจะทำอย่างไรดีในเมื่อเราคือผู้เสียหายในคดี
11.คำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีผู้ต้องหา เจ้าพนักงานบอกว่าผู้ว่าสั่งไม่ฟ้องคดีคดีจบแล้วนะ แต่เราบอกว่าเอกสารหลักฐานมีทำไมไม่ฟ้องเจ้าพนักงานบอกว่าไม่รู้ผู้ว่าราชการสั่งไม่ฟ้องคือไม่ฟ้อง พอขอดูเอกสารผู้ว่าหน่อยเขาบอกเราว่าไม่มีเอกสาร อยากถามว่าเอกสารคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี ที่ผู้ว่าสั่งมันมีเอกสารแสดงไหม มันอยู่ที่ใคร เราอยากได้ เราอยากเห็นจะทำอย่างไร
12.ทำไมเจ้าพนักงานพยายามบอกให้เราไม่ต้องสืบสาวเรื่องให้ยาวหรอก โดยบอกว่าไหนๆเงินที่มีคนเอาไปก็ไม่ใช่ของเราเป็นเงินประกันภัย เราไม่ได้เสียหายอะไรมากมายให้จบๆไป หมายความอะไร เราจะฟ้องเจ้าพนักงานว่าทุจริตต่อหน้าที่ได้ไหม
13.ถ้าเราฟ้องเจ้าพนักงานแต่เอกสารที่เราต้องการเป็นหลักฐานฟ้องคดีเจ้าพนักงานนั้น แต่บริษัทประกันภัยไม่ไห้เรา จะทำอย่างไรดี เขาเคยบอกว่าเจ้าพนักงานไม่ฟ้องคดีแล้ว ไม่ให้เรา ถามเราจะเอาไปทำไม เราบอกจะไปฟ้องคดี เขาบอกไม่ได้มันเป้นเอกสารส่วนบุคคล จะทำอย่างไรดี
'ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง |