ล้างมลทิน updated ข้อมูลและสอบถามเพิ่มเติมอีกรอบครับ
เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ
กระผม คมเดช ลูกเจ้าหน้าที่จน ๆ คนหนึ่งที่เคยสอบถามเรื่องการล้างมลทิน กรณีของคุณแม่ผมเองและคุณป้า(คุณแม่เพื่อนของกระผม) ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน กระผมมีเรื่องรบกวนและเพิ่มเติมข้อมูลดังนี้ครับ
๑. คุณแม่ผม และคุณแม่ของเพื่อน(ต่อไป ขอเรียกว่า คุณป้าแทนครับ) เป็นเจ้าหน้าที่การเงินของหน่วยราชการ มีปัญหาเกี่ยวข้องกับทุจริตเงินราชการสูญหาย เหตุเกิดเมื่อปีงบประมาณ ๒๕๔๙ ระหว่างเดือน ม.ค.ถึง มิย. ๒๕๔๙ และเรื่องถูกตั้งกรรมการสอบสวนประมาณเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน(๒๕๔๙) และถูกสตง.เข้าตรวจสอบ แต่สตง.เพิ่งชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเสร็จสิ้นเมื่อ มกราคมปี ๒๕๕๕ นี้ และทางหน่วยงานเพิ่งมีคำสั่งปลดออกคุณแม่ โดยให้ย้อนหลังโดยให้มีผลตั้งแต่ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๙ ซึ่งเป็นเวลาที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวน ส่วนของคุณป้า มีคำสั่งปลดออกโดยให้ย้อนหลังมีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๙ (ทั้ง ๆ ที่คุณป้า เกษียณราชการไปแล้วหนึ่งวันก่อนหน้านั้น คือเมื่อ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙)
๒. ระหว่างที่ยังไม่มีผลสอบสวนเสร็จสิ้น คุณแม่ผมรับราชการตามปกติ รับเงินเดือนปกติ ส่วนคุณป้าผมเกษียณในปีที่เกิดเรื่องพอดี จึงเกษียณราชการเมื่อ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ แต่เมื่อหลังเกษียณ ได้รับบำนาญ และเบิกค่ารักษาพยาบาลไปประมาณ ๓ ล้านบาท
๓. ในกรณีนี้ มีคนเกี่ยวข้อง ๘ คน มีเฉพาะคุณแม่ผมและคุณป้าเท่านั้น ที่ถูกปลดออก ที่เหลืออีก ๖ คนถูกไล่ออกทั้งหมด แต่คนที่ถูกไล่ออก คำสั่งให้มีผลแค่ปลายเดือนที่แล้ว คือเมื่อวันที่ ๒๕ พ.ค.๒๕๕๕ แต่ของคุณแม่กระผมและคุณป้า ถูกปลดออกโดยมีระบุให้ย้อนหลังตั้งแต่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๙ และ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ ตามลำดับ
๔. คุณแม่และเพื่อนผม(ลูกคุณป้า ทายาทโดยธรรม) ได้รับหนังสือแจ้งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว แต่เพิ่งจะเข้าไปพบเจ้านายคุณแม่เมื่อเช้าวันนี้เองครับ ผมจึงมาขอเพิ่มเติมข้อมูล และสอบถามเพิ่มเติม
๕. ในกรณีนี้ เจ้านายคุณแม่อธิบายว่า ที่ลงโทษย้อนหลังคุณแม่และคุณป้าไปถึงปี ๒๕๔๙ ต่างจากคนที่เหลืออีก ๖ คนที่ถูกโทษไล่ออกนั้น เป็นเพราะท่านต้องการช่วยคุณแม่และคุณป้าเพื่อให้เข้ากับหลักที่จะได้รับการล้างมลทินตามพรบ.ล้างมลทิน พ.ศ.๒๕๕๐ แต่วันที่ที่ปลดออกต่างกันไป เพราะคุณป้าเกษียณปีนั้นพอดี ตามกฎหมายข้อ...ระบุให้ต้องปลดออกวันที่ ๑ ตุลาคม ของปีที่เกษียณ แต่ของคุณแม่ผม ท่านสั่งให้ย้อนหลังถึงวันที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวน การที่ท่านทำอย่างนี้ เป็นเพราะท่านทราบว่าคุณแม่และคุณป้าไม่ได้ร่วมมืออยู่ในการทำความผิดนั้น แต่ท่านช่วยอะไรไม่ได้มากกว่านี้เพราะสตง.ระบุชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งมีทางเลือกให้ท่านสองทางเท่านั้น คือ ปลดออกหรือไล่ออก ท่านเลยเลือกปลดออกเพื่อให้คุณแม่และคุณป้ามีสิทธิได้รับบำนาญ
ก. สำหรับกรณีคุณป้านั้น ท่านบอกว่า โทษ การลงโทษ และการล้างมลทินไม่ยากและเป็นไปตามมาตรา ๕ ของพรบ.ล้างมลทิน ๒๕๕๐ โดยอัติโนมัติ (มาตรา 5 ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ถูกลงโทษทางวินัยในกรณีซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 และได้รับโทษหรือรับทัณฑ์ทั้งหมดหรือบางส่วนไปก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้นๆ) เมื่อท่านได้ลงโทษปลดออกคุณป้าย้อนหลังไปให้มีผลตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๙) คุณป้าผมจึงเข้ากรณีของมาตรา ๕ ทั้งในแง่วันเวลาที่กระทำผิดและการถูกลงโทษก่อนวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ แต่เหตุที่ท่านเรียกทายาทมาตอนนี้ เพราะทายาทต้องมาจัดการเรื่องที่ไม่ได้แจ้งการตายของคุณป้า(ตายเมื่อต้นปีนี้ครับ) เพื่อคืนเงินบำนาญที่เข้าบัญชีไปตลอดทุกเดือนหลังการเสียชีวิต (แต่เพื่อนผมยังไม่ได้เบิกเลยนะครับ) ซึ่งเป็นเงินประมาณ ๖ หมื่นกว่าบาท แต่เพื่อนผมก็จะมีสิทธิที่จะรับบำเหน็จตกทอดและเงินช่วยเรื่องศพได้ตามสิทธิหลังจากแจ้งเป็นทายาทอย่างเป็นทางการ เพราะฉะนั้นเรื่องที่กระผมและเพื่อนกังวลไปก่อนว่าจะถูกเรียกเงินบำนาญคืนตั้งแต่ปี๒๕๔๙ และต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลคืนนั้น ก็เลยไม่ต้องจ่ายตามที่กลัวครับ เพราะเจ้านายบอกว่า การล้างมลทินตามมาตรา ๕ นี้เป็นไปโดยอัติโนมัติแล้ว ถ้าทายาทไม่อุทธรณ์ ซึ่งเพื่อนผมก็ได้ทำหนังสือแจ้งปฏิเสธการอุทธรณ์เรียบร้อยแล้ว และสบายใจแล้ว
ข. แต่สำหรับกรณีคุณแม่ผม เนื่องจากว่าท่านยังรับราชการต่อเนื่องจนทุกวันนี้ เจ้านายท่านบอกว่า การที่ท่านลงโทษย้อนหลังไปถึงวันที่ ๑๖ สิงหาคม ปี ๒๕๔๙ ซึ่งทำให้คุณแม่กระผมเข้าข่ายการล้างมลทิน พ.ศ.๒๕๕๐ ก็จริง แต่ยังคงมีปัญหาในทางปฏิบัติที่ต้องสอบถามเพิ่มเติมคือ การที่ถูกปลดออกระบุวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๙ และได้รับการล้างมลทินอัตโนมัติในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ตามพรบ.ล้างมลทินนั้น การรับเงินเดือนมีปัญหา ๒ ช่วงที่แตกต่างกัน คือ ช่วงตั้งแต่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๙ ที่ถูกปลดออกถึงวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ที่ได้รับการล้างมลทินนั้น ความเป็นจริงคือ คุณแม่ผมรับเงินเดือนขรก.เต็มจำนวน ประมาณ ๒ หมื่นบาท แต่ตามสิทธิแล้ว ช่วงนั้น คุณแม่ผมควรได้แค่เป็นวงเงินของบำนาญเพราะถือว่าถูกปลดออกไปแล้ว ซึ่งเป็นจำนวนประมาณ ๑ หมื่นบาท ช่วงนี้เจ้านายเห็นว่า คุณแม่ผมต้องจ่ายเงินส่วนต่างที่รับเกินไปคืนรัฐ ส่วนช่วงเวลาตั้งแต่ได้รับการล้างมลทิน(๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ถึงปัจจุบัน) เจ้านายท่านว่า คุณแม่ผมมีสิทธิรับเงินเดือนตามปกติ แต่ยังมีปัญหาอยู่ในเรื่องของการรับราชการ คือ ด้วยความเป็นจริง คุณแม่ผมรับราชการต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ แต่เจ้านายท่านยังไม่แน่ใจว่า ท่านจะต้องให้คุณแม่ผมทำเรื่องกลับเข้ารับราชการใหม่ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ หรือไม่ ท่านให้ทางเลือก ๒ ทางคือ ให้คุณแม่รอผลการหารือก่อน หรือให้คุณแม่อุทธรณ์คำสั่งปลดออก เพื่อที่อาจจะได้รับการลดโทษหรือยกเว้นโทษ
๖. จากเรื่องทั้งหมด กระผมและเพื่อนค่อนข้างสบายใจมากขึ้น โดยเฉพาะเพื่อนผมสบายใจมาก เพราะรู้สึกว่าสุดท้ายคุณแม่เขาได้รับความเป็นธรรมและเป็นผลจากพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงจริง ๆ แต่สำหรับกรณีคุณแม่กระผม กระผมอยากจะขอคำแนะนำดังนี้ครับ
ข้อ ๑ ที่เจ้านายคุณแม่ได้อธิบายมานั้นถูกต้องหรือเปล่าครับ ท่านอาจารย์มีอะไรชี้แนะหรือเห็นว่าไม่ถูกต้องตรงไหนบ้างครับ เรื่องการลงโทษย้อนหลังไปก่อน ๕ ธันวาคม ๒๕๔๐ ทำให้ได้รับการล้างมลทินตามมาตรา ๕ ของพรบ.ล้างมลทิน พ.ศ.๒๕๕๐ แม้จะเพิ่งออกคำสั่งปลดออกเมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ นี้เอง
ข้อ ๒ เรื่องปัญหาที่รอตัดสินของคุณแม่ผม เรื่อง การต้องคืนเงินที่เกินจากบำนาญที่ควรจะได้รับในช่วง ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๙ ถึง ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ที่ได้รับการล้างมลทินนั้น ถูกต้องหรือไม่
ข้อ ๓ ทางเลือกที่ให้คุณแม่ผมรอผลหารือก่อน หรืออุทธรณ์ต่อไป อาจารย์ว่าจะเสี่ยงไปไหมครับ ถ้าอุทธรณ์ไม่ผ่าน คุณแม่ผมจะยังได้สิทธิการล้างมลทินตามเดิมหรือไม่ครับ
กระผมต้องขออภัยด้วยครับที่ถามมายาวมาก แต่อยากจะเล่าเรื่องให้ครบถ้วนครับ ขอความกรุณาอาจารย์มีชัยอีกครั้งครับ ขอกราบขอบพระคุณครับ กระผมต้องขอรบกวนอาจารย์ช่วยตอบด่วนอีกเหมือนเดิมครับ เพราะกำหนดอุทธรณ์วันสุดท้ายคือ ๒๖ มิถุนายนนี้ครับ ความกรุณาของอาจารย์ที่ได้เปิดช่องทางให้สอบถามและตอบคำถามอย่างรวดเร็ว เป็นบุญกุศลแก่กระผมและครอบครัว และเพื่อนผมมากครับ กระผมขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองให้อาจารย์และครอบครัวจงประสบแต่ความสุขและมีสุขภาพแข็งแรงเป็นที่พึ่งแก่ข้าราชการและบุตรหลานต่อไปนาน ๆ ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ/คมเดช |