เรียนท่านอ.จ.มีชัยที่เคารพ
เมื่อ9ปีที่แล้วผมซื้อทาวเฮ้า1หลัง ทำสัญญาเงินกู้กับธ.นครหลวงไทย(ในขณะนั้น)6แสนบาททำสัญญา20ปี ตกลงผ่อนเดือนละ4,100บาท เปิดบ/ชเงินฝากไว้ให้ธนาคารตัดจากบ/ช ผมผ่อนมาได้ประมาณ5ปีกว่าก็จะมีดอกเบี้ยปรับบ้างไม่เกินเดือนละ2-3พันบาทแต่ไม่ทุกเดือนและผมก็ชำระดอกเบี้ยปรับพร้อมเงินต้น4,100มาตลอด ผมนำเงินเข้าบ/ชโดยโอนATMบ้างฝากที่หน้าเค้าเตอร์บ้างและต่อมาธนาคารได้เปลี่ยนเจ้าหน้าที่สินเชื่อคนใหม่และเจ้าหน้าที่คนนี้ก็ไม่ได้ติดตามลูกหนี้เลยทำให้ผมมีดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นไปประมาณ4หมื่นกว่าที่ผมทราบว่ามีดอกเบี้ยเพราะทางบ/ชที่ผมเปิดเอาไว้ไม่สามารถนำเงินฝากได้ ธนาคารบอกว่าบ/ชผมมีปัญหาให้ติดต่อกับสินเชื่อเพื่อทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็บอกให้ผมยอมปรับโครงสร้างหนี้เพื่อที่ธนาคารจะตัดดอกเบี้ยที่ค้างออกให้หรือไม่ผมก็ต้องปิดบ/ชเลย ผมยอมปรับโครงสร้างหนี้แต่ยังไม่สามารถนำเงินเข้าธนาคารเพื่อเพื่อชำระหนี้ได้ เพราะเจ้าหน้าที่สินเชื่อท่านนี้บอกให้รอทางสำนักงานใหญ่อนุมัติมาก่อน จนเวลาล่วงเลยมาได้ประมาณ1ปีผมจึงได้เข้าไปติดต่อใหม่ เพราะทางธนาคารไม่ได้ติดต่อกลับมายังผมเลย เจ้าหน้าที่สินเชื่อท่านนี้ก็ลาออกไปแล้วและให้ผมเปิดบ/ช ออมทรัพย์ใหม่เพื่อใช้ตัดยอดหนี้ ผมก็ได้นำเงินเข้าและธนาคารก็ได้ตัดบ/ชปรกติและได้โอนหนี้ผมไปที่บ.บริหารสินทรัพย์(เป็นบริษัทฯของธนาคารเอง)แล้วเมื่อกลางปี54ธ.นครหลวงไทยได้ทำการควบรวมกิจการกับธนชาติผมก็ยังนำเงินเข้าบ/ชและธนาคารก็ตัดยอดปรกติ จนเมื่อเดือนพ.ย.ปี54ธนาคารไม่ได้ตัดบ/ชเพื่อหักหนี้เลย แต่มีหนังสือมาว่าตัดยอดบ/ชเป็นดอกเบี้ยไปหมื่นกว่าบาท(ใบเสร็จ)จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ตัดบ/ช จนผมต้องการปิดบ/ชภายใน ก.ค.ปี55นี้ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ทำยอดปิดบ/ชมาให้ปรากฎว่า ผมมียอดเงินต้นค้าง580,000 ดอกเบี้ยปรับ180,000ดอกเบี้ยปรกติ140,000ฉะนั้นถ้าผมปิดบ/ชผมต้องเสียเงินถึง9แสนกว่าบาทเฉพาะดอกเบี้ยปรับนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดของผมเลย และทางผู้จัดการธนาคารเองก็ยอมรับผิดว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่และธนาคารเอง กรณีของผม ต้องทำอย่างไรบ้างที่จะปิดบ/ชพร้อมโอนโดยที่ไม่เสียดอกเบี้ยมากขนาดนี้ครับ เพราะที่ผ่านมาผมได้ชำระให้ธนาคารไปตั้ง3แสนกว่าบาทแล้ว และเงินต้นผมลดลงเพียง2หมี่นบาทเองครับ ต้องขอกราบอภัยมาณ.ที่นี้ด้วยที่เรื่องของผมยาวมากครับ