ผมมีเคสอยากปรึกษาครับเกี่ยวกับซื้อขายรถมอไซค์ รายละเอียดมีดังนี้
ผมอยู่เชียงใหม่มีฮาร์เลยคันนึงบังเอิญเพื่อนเอาไปชนมา และมีคนที่รู้จักกันที่ กทม มาขอซื้อ โดยทำสัญญาซื้อขายเป็นเงิน 250000 บาท โดยในสัญญาได้ระบุไว้ว่ารถจะเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อก็ต่อเมื่อได้รับเงิน ครบตามจำนวน โดยทำสัญญาวันที่ 9 พค 55 โดยผู้ซื้อได้ขอนำรถมาซ่อมที่ กทม ก่อนและได้นำรถลงมา กทม วันที่ 10 พค 55 และได้ออกเช็คล่วงหน้าไว้ 2 ใบ ใบละ 125000 บาท โดยลงวันที่ 5 มิย 55 และอีกใบ 5 กค 55 และได้ลงรายละเอียดไว้ในสัญญาซื้อขายไว้ด้วยว่าชำระไว้ด้วยเช็ค 2 ใบนี้ ซึ่งในตอนนี้เช็คเด้งทั้ง 2 ใบเรียบร้อยแล้ว
มาถึงฝั่งคนซื้อเมื่อนำรถลงมาซ่อม พอซ่อมได้สักพัก ได้มีคนขอซื้อต่อซึ่งเป็นเจ้าของร้านซ่อมนั่นเอง คนซื้อรถผมเลยตกลงขายและทำสัญญากับคนซื้ออีกคนไว้เป็นจำนวน 230000 บาท และรับเงินไปแล้ว 200000 บาท อีก 30000 บาทจะรับก็ต่อเมื่อได้เอกสารรถจากผม ไปให้คนซื้อรถต่อเขาไป ซึ่งคนที่ซื้อรถผมไปนำไปขายต่อในช่วงที่เช็คใบแรกยังขึ้นไม่ได้ น่าจะขายในช่วงต้นๆเดือน มิย 55
และตอนนี้ผมก็กำลังตามจะเอารถคืนไม่ขายแล้วเนื่องจากเช็คเด้งทั้งสองใบ ไม่อยากที่จะขายแล้ว และผมได้สอบถามไปยังร้านที่เขาซื้อต่อไปเขาบอกว่ามีค่าซ่อม 45000 บาท ผมยินดีจะจ่ายนะครับ แต่ทางร้านบอกว่าหากจะเอารถกลับต้องมาเคลียเงินที่จ่ายให้คนที่ซื้อรถผมไปด้วยถึงจะคืนรถ ให้ ผมเลยอยากถามว่า
1. ผมสามารถเอารถกลับได้หรือไม่ครับ เพราะสัญญาซื้อขายของผมกับคนซื้อได้ผิดสัญญาแล้ว คือเช็คเด้ง2. ทางร้านบอกว่าสัญญาซื้อขายเขาทำถูกต้องเพราะได้เห็นสัญญาซื้อขายที่ผมได้ทำกับคนซื้อรถผมไปแล้ว เลยตกลงซื้อขาย3. ผมสามารถเรียกร้องค่าเสียเวลาจากผู้ซื้อได้หรือไม่4. ทางร้านมีสิทธิ์ไม่คืนรถได้ด้วยหรือครับ ทำไมร้านเขาไม่ไปเรียกเงินคืนจากคนที่เอาเงินเขาไปครับ ทำไมต้องผลักความรับผิดชอบให้ผมเป็นคนตามเงินให้เขาครับ
ขอบคุณครับ
1. เมื่อสัญญาระบุเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับแล้วจึงจะโอนให้ ดังนั้น คนที่ซื้อรถคุณเขาจึงยังไม่มีกรรมสิทธิในรถนั้น เขาจึงไม่มีสิทธิเอาไปขายได้ คนที่ซื้อจากเขาก็ย่อมไม่ได้สิทธิอะไร คุณจึงมีสิทธิเอารถคืนโดยไม่ต้องจ่ายค่ารถ (แต่คงต้องจ่ายค่าซ่อม) เพียงแต่ว่าอยู่ๆ คุณจะไปเอารถมาเฉย ๆ คงไม่ได้ คงต้องแจ้งให้เขาส่งมอบรถให้คุณ ถ้าเขาไม่ส่งคุณก็ต้องฟ้องศาล
2. ถึงเขาจะเห็นแล้ว แต่คงไม่ได้อ่านละเอียด และประมาทเองที่ไม่ได้ติดต่อถามคุณว่าได้รับเงินเรียบร้อยแล้วหรือยัง
3. เรียกได้ แต่ต้องเรียกจากคนที่ซื้อรถจากคุณ
4. เห็นจะต้องไปถามเขากระมัง เพราะคนตอบก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม