ญาติถูกคนรู้จักกันปลอมเอกสารสัญญากู้เงินเพื่อให้เป็นหนี้ 130,000.- บาท

1. ศาลชั้นต้นให้ฝ่ายโกงชนะ เนื่องจากตรวจสอบลายเซ็นแล้วเป็นของป้า ซึ่งป้าเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปเซ็นอะไรไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จึงสู้คดีด้วยลายเซ็น

2. ศาลอุทธรณ์ให้ป้าชนะ เนื่องจากว่า เอกสารที่ปลอมนั้นมีข้อพิรุธหลายอย่างและมันเกี่ยวโยงไปถึงวันเวลาและสถานการณ์ของการกู้ที่มีข้อพิรุธ (สาเหตุที่เขาโกง ก็เนื่องมาจากก่อนหน้านั้นลูกของป้าเคยไปกู้เงินกับเจ้าเดียวกันนี้ แต่ก็ชดใช้หนี้และดอกเบี้ยให้เขาหมดแล้ว ซึ่งเขายังไม่พอใจ พูดง่าย ๆ ต้องการให้จ่ายอีก เพราะหนี้ครั้งนั้น ลูกป้าต้องการให้ไปจบที่ศาลเพราะมันเป็นหนี้นอกระบบ ผ่อนสูง และกลัวบานปลายเนื่องจากให้ผ่อนจ่ายเดือนละเป็นหมื่นไปเรื่อย ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะหักต้นและดอบเบี้ยกันอย่างไร จึงไปจบกันที่ศาลและจ่ายหนี้เขาไปหมดแล้ว ครั้งนั้นกู้ 200,000.- บาท และรวมจ่ายดอกเบี้ยให้เขาราว 80,000.กว่าบาท ซึ่งเขาไม่พอใจต้องการอีก จึงหาวิธีโกงอีก) เขาหาวิธีโกงป้า โดยทำสัญญาปลอมขึ้นให้ป้าเป็นหนี้ 130,000.- บาท โดยสัญญานี้ไม่มีหลักประกัน ไม่มีผู้ค้ำ ซึ่งต่างจากของลูกป้าตอนกู้เขา ต้องมีโฉนดที่ดินค้ำ และเอาตัวป้าเป็นผู้ค้ำประกันด้วยทั้ง ๆ ที่ป้าเองไม่มีความสามารถในการจ่ายหนี้ด้วยซ้ำ ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรมากมาย ซึ่งต่างจากลูกป้าซึ่งมีงานทำเป็นหลักแหล่ง ข้อพิรุธอีกอย่างวันที่เขาลงในสัญญากู้มันก็เป็นช่วงที่หนี้ลูกป้ากับทางเขายังเคลียร์กันไม่ลงแล้วเขาจะให้ป้ากู้ได้อีกอย่างไร

3. ฝ่ายโกงยื่นฎีกาต่อศาล ศาลพิจารณาให้ฝ่ายโกงชนะด้วยเรื่องลายเซ็นและบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์อะไรเนื่องจากเป็นคนรู้จักกัน ต้องให้ป้าจ่ายหนี้เขา 130,000.- บวกรวมดอกเบี้ยต้องจ่ายเขา 150,000.- บาท

ซึ่งมันไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหนี้ที่ไม่ได้ก่อ ป้าสามารถยื่นฟ้องหรือเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไปได้อีกหรือไม่

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

ส้ม