ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    048219 ทั่วไปคนตกงาน31 ตุลาคม 2555

    คำถาม
    ทั่วไป
    ผมกับเพื่อนหุ้นกันบริษัทเปิดทุนจดทะเบียน 1 ล้านมี 3 หุ้น  60%,30% และของผม 10% โดยผมเป็นผู้จัดการฝ่ายขนส่ง เงินเดือน 35000 บาท แต่ไม่เคยได้รับเงินเดือนเลย โดยหุ้นใหญ่ขอค้างไว้ก่อน และเอาเงินของผมไปอีก 200000 บาท (ไม่มีเอกสาร) ต่อมาให้ผมไปกู้ SME 500000 บาทโดยใช้ชื่อผมเป็นผู้กู้และหุ้นรองเป็นผู้ค้ำ (หุ้นใหญ่และหุ้นรองเป็นสามีภรรยากันแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันมีบุตร 1 คน) โดยสัญญาว่าจะเป็นผู้ผ่อนชำระให้ เงินก้อนนี้ผมได้โอนจากบัญชีผมเข้าบัญชีของหุ้นใหญ่เมื่อ 16 พ.ย. 54 มีการผ่อนให้ 3 งวดแล้วก็หยุดส่ง อีกทั้งเงินสมทบประกันสังคมก็ขาดส่ง 5 เดือน ทางสำนักบัญชีแจ้งว่าถ้าขาดเกิน 6 เดือนจะเสียสิทธิ์รักษาพยาบาล ทางสำนักบัญชีแนะให้ลาออกมาสมัคร มาตรา 39 แทน อีกทั้งติดต่อหุ้นใหญ่ไม่ได้เลย 6 เดือนมาแล้ว ไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ หุ้นรองก็บ่ายเบี่ยงว่าหุ้นใหญ่ไปดูงานต่างจังหวัด อ้างว่าไม่รู้เรื่องเลย(สงสัยรู้เห็นกันแล้วหนีไปปล่อยให้เลี้ยงลูก) บริษัทก็ยังทำงานอยู่ จดหมายทวงหนี้ของ SME ไม่ได้ชำระมา 8 เดือนแล้ว ผมจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณครับ
    คำตอบ
    เงินเดือนที่ค้างอยู่ กับเงินที่บริษัทยืมไปนั้น คงต้องทำใจว่าสูญแน่ เพราะการที่คุณมีหุ้น ๑๐ % แล้วให้คุณไปกู้เงินมาให้บริษัท ซึ่งคุณก็ยอม (นึกไม่ออกว่าคุณนึกอย่างไรจึงยอม) แม้จะมีหุ้นอีกคนหนึ่งค้ำประกัน แต่ก็คุณก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องรับผิดในหนี้ที่ไปกู้มา  ทางที่ดีคุณควรไปแจ้งให้เจ้าหนี้ให้เขาทราบถึงฐานะที่แท้จริงของบริษัท หากเขาจะฟ้องเรียกให้ชำระหนี้ก็ให้เขาฟ้องผู้ค้ำประกันเสียในคราวเดียวกัน ส่วนคุณถ้ายังพอมีเงินอยู่บ้าง ก็ลองปรึกษาทนายความดูว่าจะสามารถเรียกเงินคืนจากบริษัทได้อย่างไร  ซึ่งก็เดาว่าบริษัทคงไม่มีทรัพย์สินอะไร ส่วนคนถือหุ้นใหญ่ ก็คงไม่มีลายมือชื่อที่จะถูกผูกพันอะไรได้
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    31 ตุลาคม 2555