ตามหนังสือสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๕/ว๓๘ ลงวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ เรื่องการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องการให้โอกาสผู้ติดเชื้อเอดส์ คนพิการ และผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดซึ่งพ้นสภาพการใช้ยาเสพติด เข้าทำงาน หรือรับการศึกษาต่อในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ๒ ข้อ ๒ ที่ระบุว่า ห้ามอ้างเหตุ...หรือการเคยเสพหรือติดยาเสพติดซึ่งพ้นจากสภาพการใช้ยาเสพติด เป็นเหตุผลในการลิดรอนสิทธิในการเข้ารับการศึกษา การรับทุนการศึกษา หรือเข้าทำงาน ตลอดจนความก้าวหน้า การให้ออกจากการศึกษาหรือให้ออกจากงาน
ข้าราชการสังกัด อบต. ถูกจับข้อหาเสพยาบ้า แต่สมัครใจเข้ารับการฟื้นฟูตามหลักเกณฑ์ตามที่พรบ.ฟื้นฟูสมรรถภาพยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ กำหนด สุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะไม่ต้องรับโทษตาม พรบ.ดังกล่าว
ทางวินัย คณะกรรมการสอบสวนฯ ให้ปลดออก นายก อบต.เห็นชอบ ก.อบต.จังหวัด เห็นชอบให้ไล่ออก ผู้กระทำผิดอุทธรณ์อ้าง มติ ครม. ดังกล่าวข้างต้น
การพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่า ผู้กระทำผิดเป็นข้าราชระดับ ๔ รู้อยู่แล้วในขณะเสพว่าการเสพยาบ้าผิดกฎหมาย และผิดวินัย จึงเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และ มติ ครม.ดังกล่าวเป็นเรื่องการให้โอกาสแก่บุคคลภายนอกที่ยังไม่ได้เข้าสู่วงราชการเท่านั้น เพราะข้าราชการมีวินัยกำกับอยู่แล้ว
ขอเรียนสอบถามว่า ความเห็นในทางพิจารณาอุทธรณ์ถูกต้องหรือไม่ และผู้กระทำผิดได้รับประโยชนืตามมติ ครม.ดังกล่าวหรือไม่ เกรงว่าจะถูกฟ้องว่าไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.
ขอบพระคุณครับ
เป็นเหตุผลที่ชอบแล้ว