จะดำเนินการขายที่ดินไดอย่างไร?
กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง
ก่อนที่กระผมจะขอกราบเรียนถามท่านอาจารย์บังเอิญผมเป็นคนชอบอ่านและติดตามท่านอาจารยืตอบปัญหา แง่มุมทางด้านกฏหมาย ทางเว็บไซท์ของท่านอาจารย์เป็นประจำเกือบทุกอาทิตย์ ได้รับความรู้มากๆครับ..ผมได้อ่านคำถามที่ 048384 เรื่องลาผักผ่อนไม่อนุมัติ ของลูกจ้าง กระผมเข้าใจว่า.น่าจะเป้นลูกจ้างของสหกรณ์ออมทรัพย์ครุปทุมธานี เดิมเขาทำหน้าที่เจ้าหน้าที่การเงิน มีความเกี่ยวข้องกับผู้จัดการในเรื่องนำเงินของสหกรณ์ไปเล่นแชร์ล็อตเตอรี่ทำความเสียหายให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์รูปทุมธานีเป็นจำนวนเงิน 289 ล้านบาท รวมทั้งหมด 13 สหกรณ์ฯ วงเงินประมาณ 6500 ล้านบาท ขณะนี้ คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี จำกัด ได้มีมติไล่ออกผุ้จัดการ ไปแล้ว (เขากำลังทำเรื่องอุทธรณ์ต่อคระกรรมการดำเนินการอยู่) ความเสียหายของสหกรณ์ทั้งหมดนี้เกิดจากความโลภ อยากได้ ในเรื่องนี้ใครทำอะไรไว้มีความเกี่ยวข้องกับใคร? ประธานกรรมการและคณะกรรมการชุดปัจจุบันก้ต้องดำเนินการสอบสวนให้ได้ข้อเท้จจริง ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งใคร...กระผมยืนยันได้ เพราะตัวของกระผมก้เป้นคณะกรรมการดำเนินการอยู่.ใครทำอะไรไว้ ก้ต้องได้รับผลกรรมอันนั้นเว้นแต่ช้าหรือเร้วเท่านั้น วันนี้สหกรณืออมทรัพย์ครูราชบุรี จำกัด ศาลตัดสินแล้วเมื่อวันที่ 30 พ.ย.2555. ให้คณะกรรมการดำเนินการ ผู้ตรวจสอบกิจการ ผุ้จัดการ เจ้าหน้าที่ รวม 23 คนชดใช้เงินคืนจำนวน 678 ล้านบาทให้กัสหกรณ์ออมทรัพย์ครูราชบุรี จำกัด.กระผมไม่ทราบว่า ป่านนี้คนที่เกี่ยวข้องกินได้นอนหลับดีหรือเปล่า?.ใครทำอะไรไว้ก้ต้องได้รับผลตอบแทนอย่างนั้น กระผมเชื่อในกฏแห่งกรรม. ของปทุมธานีศาลจะตัดสินวันที่ 27 ธันวาคม 2555 นี้ หลายแห่งก้คงทะยอยๆกันไป สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี จำกัดนั้นมีลักษณะพิเศษคือคนกลุ่มนี้ไปชักชวนให้สหกรณ์อื่นมาเล่นหวย เปรียบเสมือนนายหน้า..มีสหกรณ์หลายแห่งตกเป้นเหยื่อ เช่น ราชบุรี ชัยภูมิ เชียงราย สาธารณสุขสงขลา นนทบุรี ยโสธร จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา กระผมไม่ทราบ กระผมเล่ามาเสียยาวก้อยากให้ท่านอาจารย์รับทราบเท่านั้นเอง ว่า คนบางคนทำผิดแล้วยังไม่รู้ตัวเองว่าผิดมีเยอะนะในสังคมไทย..น่าเป็นห่วงจริงๆอนาคตประเทศไทย คราวนี้กระผมขอวกมาที่ปัญหาอยากกราบเรียนถามท่านอาจารย์ดังนี้ครับ
กระผมขอสมมติดังนี้ครับมีคนกลุ่มหนึ่งจำนวน 5 คน ประกอบไปด้วย นาย A,B,C,Dและนาย Eลงขันกันนำเงินไปซื้อที่ดินแปลงหนึ่งประมาณ 20 ไร่เศษเพื่อหวังเก็งกำไร ทุกคนมีชื่อในโฉนดที่ดินหมดแต่ไม่ได้ระบุว่า ใครอยู่ตรงไหนแต่ได้ระบุว่าใครมีกี่ส่วนในที่ดินแปลงนี้ไว้ เพราะมีเจตนาตั้งแต่ต้นว่าต้องการขายที่ดินแปลงนี้ยกแปลง เมื่อได้ราคาและก้แบ่งไปตามสัดส่วน โฉนดที่ดินแปลงนี้นาย A เป็นผู้ถือโฉนดไว้เพราะทุกคนไว้ใจเนื่องจากเป็นผู้ใหญ่และเป็นคนต้นคิดทุกคนให้ความไว้วางใจ
ต่อมานายA ตายลงความจริงก็ปรากฏว่า นายA ได้นำโฉนดแปลงนี้ไปให้ นาง H ถือครองไว้ ทราบจากนางH ว่า นายA ได้นำเงินของตนไป 1 แสนบาทและนำโฉนดที่ดินแปลงนี้มาให้นาง H ถือไว้ เฉยๆทำแบบโบราณไม่ได้มีการทำสัญญาจดจำนองให้ถูกต้องตามกฏหมายแต่ประการใด? ถือโฉนดไว้เฉยๆ จะให้โฉนดคืนก็ต่อเมื่อ ต้องนำเงินมาไถ่ถอนคืนถึงจะให้ ลูกนาย A ซึ่งทำงานทางด้านกฏหมายทราบดีว่า นาย A มีภรรยาหลายคน มีหนี้สินมากมาย จึงไม่ยอมเซ็นต์ชื่อเป็นผู้รับมรดกของนาย Aเพราะทราบดีว่าพ่อของตนเองมีหนี้สินมากมาย จึงได้ทำหนังสือมา 1 ฉบับ ถึง นาย B ว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวใดๆกับมรดกของพ่อ( นาย A) ขอสละสิทธิ์เพราะเป็นผู้รอบรู้ทางด้านกฏหมายกลัวเรื่องหนี้สินของพ่อ( นายA) จะตามมา พูดง่ายๆก็คือ ไม่ย่งเกี่ยว ขอสละสิทธิ์
ต่อมามีผู้มาขอซื้อที่ดินแปลงนี้ทุกคนมีความเห็นพ้องต้องกันคือ ต้องการขาย แต่ติดอยู่ที่ นาง Hไม่ให้โฉนด จะให้ก็ต่อเมื่อ ต้องนำเงินมาชำระพร้อมดอกเบี้ยเสียก่อนถึงจะให้
นาย A ก็ตายไปแล้ว ลูกๆก็ไม่ยอมรับมรดกของพ่อ
ถ้าจะขายที่แปลงนี้ได้จะต้องดำเนินการอย่างไร? โฉนดที่ดินเวลานี้ก็ไม่มีเพราะอยู่กับนาง H .จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่านอาจารย์ได้โปรดชี้แนะเรื่องนี้ให้ด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ด้วยความเคารพอย่างสูง
อ.สุรศักดิ์ นาคนาคา |