กราบเรียนอาจารย์มีชัยด้วยความเคารพ

             ก่อนนี้ผมเคยถูกตั้งข้อหา  ตกเป็นจำเลย อัยการเป็นโจทก์  นายกอบต. เป็นโจทก์ร่วม  คดีอาญาข้อหาบุกรุกคันคลองสาธารณะ  (ประมาณ  2 งาน) เ พมซื้ที่ดินมาจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี ในปี 2549  เนื้อที่  12  ไร่  2  งาน  80  ตารางวา  ปี 2550  ผมให้ที่ดินไปรังวัดสอบเขต  เนื้อที่หายไป  เหลือ  11  ไร่ เศษ   เพราะปี 2545  กำนัน และ  อบต.  ทำโครงการให้กรมชลประทานขุดลอกคลอง   บุกรุก  ละเมิดที่นาชาวบ้าน 

           ( คดีนี้  เคยกราบเรียนปรึกษาอาจารย์มีชัยมาหลายครั้งแล้ว )

           ในการรังวัดสอบเขตเมื่อ  ปี  2550  ที่ดินหายไปจากที่ระบุในโฉนด เพราะที่ดินด้านทิศเหนือในปี 2545 มีการขุดถมคันนาเดิม (กว้าง  1  วา) อยู่นอกเขตเนื้อที่  12  ไร่  2  งาน  80  ตารางวา   การขุดลอกในปี 2545  ทำคันคลองให้กว้าง  สูง  ใหญ่  คันคลองกว้าง  5  -  10  เมตร  ผมจึงจ้างรถแบ็คโฮขุดนาด้านที่ติดคันคลอง และขุดคันคลองที่รุกล้ำมาในนาออกเป็นคูระบายน้ำ  การกระทำของผม  ถูกกล่าวหาว่าบุกรุก  ละเมิดคันคลองครับ

           จากการที่ตกเป็นจำเลย  ในอดีต  ผมไม่เคยมีความรู้ในเรื่องของกฎหมายต่าง ๆ  แต่ผมพอมีความสามารถในการเปิดอินเตอร์เนตเพื่อหาความรู้  ต่าง ๆ  ผมเรียนรู้กฎหมาย  โดยท่านเป็นผู้ให้ความรู้  จากการที่ประชาชน  ชาวบ้าน  ได้มีคำถามมาเรียนปรึกษาท่าน    ท่านเป็นครูกฎหมายของประชาชนในแผ่นดิน   ผมกราบเคารพท่านด้วยความจริงใจครับ

           จากการที่ผมตกเป็นจำเลยคดีอาญา  ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกคันคลองสาธารณะ    กราบเรียนถามอาจารย์ว่า    การที่พยานโจทก์  เบิกความที่เป็นข้อความเท็จหลายประการ  และอัยการ(ฝ่ายโจทก์)    เอาข้อมูล เอกสาร  หลักฐาน  เพื่อประกอบการพิจารณาของศาล  เช่น  (การรังวัดสอบเขตทำแผนที่วิวาท   ซึ่งอบต. ให้ที่ดินอำเภอมารังวัดทำแผนที่วิวาท) โดยที่กำนัน  และนายก  ไม่ลงชื่อรับรองแนวเขต  ไม่ยอมรับการรังวัด  และส่งหนังสือจาก อบต.ไปยังสำนักงานที่ดินอำเภอ  ไม่ยอมรับการรังวัด   แต่นายกอบต. ก็เอาหลักฐาน  เอกสาร(แผนที่วิวาท)นี้ไปประกอบการร้องทุกข์  กล่าวโทษแจ้งตำรวจ   ผม  ตกเป็นจำเลย   และอัยการก็นำแผนที่วิวาทนี้ให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยพิจารณาคดี    ในฐานะที่ผมตกเป็นจำเลย  ผมได้ขอความเมตตา  ขออำนาจสาล  ให้ศาลสั่งให้ที่ดินอำเภอไปรังวัดโฉนด  และคันคลองที่มีกรณีพิพาท  เนื้อที่ในโฉนด  ระบุ  12  ไร่  2  งาน  80  ตารางวา  ตามคำสั่งศาลให้ที่ดินซึ่งติดแนวเขตคันคลองพิพาท  โดยผมนำชี้ ได้  12 ไร่  2  งาน  76  ตารางวา  กำนัน  (ฝ่ายโจทก์)  นำชี้ได้  12  ไร่  1  งาน   ตามผลการรังวัด  ผมไม่น่ามีความผิดข้อหาบุกรุกคันคลอง

             ที่ดินอำเภอได้ส่งเอกสารการรังวัดตามคำสั่งศาล  ไปยังศาล    แต่ทุกฝ่าย  ไม่ได้นำผลการรังวัดตามคำสั่งศาล  มาเป็นข้อต่อสู้คดีเลย   แม้แต่ตัวผม(จำเลย)ขณะตกอยู่ในฐานะจำเลย  ในวันพิจารณาคดี  สืบพยานผมนึกไม่ถึงผลการรังวัดนี้เลย  มันคงเป็นความโง่เขลาของประชาชน  ที่ไม่มีประสบการณ์ในการตกเป็นจำเลย  และทนายของจำเลยไม่ได้นำผลการรังวัดตามคำสั่งศาลมาเป็นหลักฐานต่อสู้คดี  ให้จำเลย  ด้วยเหตุผลใดใดไม่ทราบ  อัยการฝ่ายโจทก์  คงไม่คิดที่จะนำเอกสารการรังวัดตามคำสั่งศาลนี้ไปให้ศาลพิจารณา   เพราะอัยการ  เป็นทนายของแผ่นดิน  เป็นทนายของโจทก์ร่วม   ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของคันคลอง  ที่บุกรุกละเมิดสิทธ์การครอบครองที่ดินของจำเลย  ทำอย่างไรจะให้จำเลยมีความผิดให้ได้เท็จจริงไม่เป็นไร   ขอให้จำเลยผิด

                แผนที่วิวาท(ที่กำนัน  และนายก  อบต.) ไม่ยอมรับการรังวัดที่นำมาเอาผิดกับจำเลยปรากฏในเอกสารในการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น  และคำเบิกความของพยานโจทก์  มีความเท็จหลายอย่าง  และศาลอุทธรณ์  ศาลชั้นต้นก็วินิจฉัย  พิจารณาตามเอกสาร  หลักฐาน  พยานบุคคลที่กล่าวเบิกความเท้จพิพากษาจำคุก  2  ปี โทษจำคุกรอลงอาญา  2  ปี  ปรับ  1  หมื่นบาท  ให้จำเลยและบริวารออกไปจากคันคลอง  จำเลยทำตามคำพิพากษาอาญาแล้ว  

            แต่ในเวลาต่อมาโจทก์  ฟ้องจำเลย  คดีแพ่งต่อจากอาญา  ให้ชดใช้ค่าเสียหายทั้งคิดเป็นค่าเสียหาย  รวมดอกเบี้ย  260,000 บาท (สองแสนหกหมื่นบาท)  ให้จำเลยเสียค่าใช้จ่าย  ค่าทนายด้วย  ผมมีปัญหาเดือดร้อนใจ  ขอกราบเรียนปรึกษาอาจารย์  โปรดตอบเพื่อเป็นความรู้  เป็นวิทยาทาน   แก่ชาวบ้านที่ไม่รู้กฏหมายด้วย ขอเรียนปรึกษาดังนี้ครับ 

1. ขณะพิจารณาคดี จำเลยทราบว่าพยานโจทก์เบิกความเท็จ  สามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในห้องพิจารณาคดี ว่าพยานเบิกความเท็จ ได้หรือไม่  ถ้าไม่ได้  มีวิธีการอย่างไร

2. อัยการเบิกความเท็จ กำนัน  นายก  อบต.  เบิกความ  ใช้หลักฐานอันเป็นเท็จทำให้จำเลยมีความผิดในคดีอาญาที่ผ่านมา  จากการใช้พยานหลักฐานเท็จ

เคยปรากฎว่ามีจำเลยฟ้องเอาผิดกับอัยการ นายก  อบต,กำนัน  ความผิดในมาตรา  157  ได้หรือไม่  มีวิธีการอย่างไรโปรดกรุณาแนะนำประดับความรู้ด้วยครับ

3.  คดีนี้  กำนัน  นายกอบต.  กำลังฟ้องแพ่งจำเลย  จำเลยสามารถฟ้องสวนกลับ  ในเวลาพิจารณาเดียวกันได้หรือไม่  อ้างมาตรา  157  ได้หรือไม่

4. ศาลแพ่งนัดไกล่เกลี่ย ระหว่างโจทกื กับจำเลย  วันที่  20  มกรา  จำเลยไม่ยอมรับข้อเสนอ  (ที่โจทก์ นายกอบต)ฟ้องแพ่ง  จำเลยควรทำอย่างไรบ้าง

5.การที่ที่ดินของจำเลยถูกขุด(หลอก)  ลอกคันคลองบุกรุกที่นาจะฟ้องร้องอย่างได้บ้างครับ

              กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างสูง