เนื่องด้วยดิฉันได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่เพื่อใช้ในการขายของ แล้วได้ทำการวางเงินล่วงหน้า(หรือเงินประกันไว้ จำนวน 10,000 บาท) แต่ยังมิได้ระบุวันเริ่มสัญญาขึ้นเนื่องจากพื้นที่ ที่ได้ไปเช่าเพื่อทำการขายของนั้น ยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งทางเจ้าของพื้นที่ก็ได้บอกกล่าวด้วยวาจาว่า จะทำการเปิดตลาดได้ในช่วงเดือนมกราคม ดิฉันทำสัญญาเช่า ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2555 แต่เมือเดือนมกราคม 2556 มาถึงทางเจ้าของพื้นที่ก็โทรมาแจ้งว่าเลื่อนเปิดไปเป็นกุมภา 56 พอเข้าเดือนกุมภา 56ก็โทรมาแจ้งว่าจะเปิดประมาณกลางเดือน พอถึงกลางเดือนก็โทรมาเลื่อนอีก จนสุดท้ายแจ้งแล้วว่า ไม่เลื่อนจะเปิดแล้วอย่างเป็นทางการคือ 1 มีนาคม 2556 แต่ระหว่างนี้ 25กุมภาพันธ์ 56ให้เข้ามาจัดพื้นที่ร้าน และทดลองขาย26-28 กุมภาพันธ์ 56 แต่ทางดิฉันเห็นว่าด้วยการที่ทางเจ้าของพื้นที่ทำการเลื่อนมาเรื่อยๆและได้ไปดูพื้นที่ล็อคที่จะตั้งร้านจริงๆก็ไม่ได้เหมือนกับที่ได้มีการคุยกันไว้แต่แรก โดยที่ตัวสัญญาเช่าระบุว่าเมื่อเริ่มทำการค้าขายวันไหนก็ให้ใช่วันนั้นเป็นวันเริ่มต้นสัญญาเช่า เพื่อจะได้เป็นข้อตกลงว่าจะต้องกำหนดชำระค่าเช่าเมื่อใด แต่เนื่องจากทางดิฉันไม่ต้องการไปขายของในพื่นที่นั้นแล้วและจะขอยกเลิกการเช่าพื้นที่ดังกล่าวนั้น ดิฉันต้องทำประการใดหรือเปล่าคะ เพราะทางสัญญาเช่าพื้นที่ระบุว่าจะไม่คืนเงินประกัน 10,000บาท หากทางดิฉันยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ก่อนกำหนด 1 ปี โดยในการจ่ายเงินประกันก็มิได้มีใบเสร็จอะไรให้เลย มีเพียงเอกสารสัญญาเช่าพื้นที่ ธรรมดาที่เหมือนกันเขียนขึ้นมา เพื่อให้คู่สัญญาได้เซ็นการจองพื้นที่เช่าคะ
1.ดิฉันขอถามว่าจะเลิกสัญญาเช้าพื้นที่ดังกล่าวได้เลยหรือเปล่าคะ หรือว่าต้องทำเป็นหนังสืออะไรมั้ย
2. เงินประกัน10,000บาทมีสิทธิได้คืนหรือมั้ย
3. แล้วถ้ามีการบอกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวทางดิฉันต้องเอกสารอะไรหรือเปล่าคะ เพื่อที่ในภายในจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก
ขอบคุณท่านอาจารย์มากนะคะ
1, การจะบอกเลิกสัญญาก็ต้องทำเป็นหนังสือ จะได้มีหลักฐาน แต่ควรอ่านหนังสือสัญญาที่จองไว้เสียให้ละเอียดว่า คุณอาจเลิกสัญญาได้ในกรณีใดบ้าง แล้วพิจารณาดูว่าเข้าข่ายหรือไม่
2. ถ้าเขาผิดสัญญา คุณก็มีสิทธิได้คืน ถ้าเขาไม่ได้ผิดสัญญา ก็คงไม่ได้คืน แต่จำไว้นะว่า การจะเลิกสัญญาต้องทำให้เป็นเรื่องเป็นราว เป็นหนังสือ อย่านึกว่า ถึงเวลาเราก็ทิ้งไปเลย จะได้ไม่ต้องยุ่งกัน ถ้าทำอย่างนั้น เขาก็คิดค่าเช่าคุณเรื่อยไป พอมีจำนวนมาก ๆ เขาก็ฟ้องเรียกเงินจากคุณ
3. อ่านข้อ 1-2 ให้ละเอียด ก็จะรู้ว่าต้องทำอย่างไร