ไม่มีใบมรณะบัตรกับบัตรประชาชนผู้ตายจะจัดการกับทรัพย์สินผู้ตายได้อย่างไร เรียน อาจารย์มีชัย ฤชุพันธ์ ที่เคารพ
ผมกำลังประสบปัญหาจากญาติพี่น้องเนื่องจากเหตุการเสียชีวิตของคุณแม่ครับ รายละเอียดดังนี้ครับ
ภูมิลำเนาของผมอยู่จังหวัดนครราชสีมา ครอบครัวมีคุณแม่ พี่สาวและผม พี่สาวของผมรับราชการอยู่กรุงเทพฯ และผมรับราชการอยู่เชียงใหม่ครับ พีสาวและผมกลับไปเยี่ยมคุณแม่ที่โคราชเดือนละครั้งเป็นปกติ คุณแม่จึงอยู่กับหลานสาวและหลานชายรวม 5 คน ซึ่งเป็นลูกของคุณป้าที่บ้านที่โคราชมาโดยตลอด เป็นระยะเวลาร่วม 10 ปี ส่วนคุณพ่อของผมเสียชีวิตไปหลายปีแล้วครับ
เมื่อต้นปีคุณแม่เริ่มป่วยเนื่องจากอายุมากถึง 90 แล้ว หลานสาวเป้นคนดูแล ผมกับพี่สาวเวียนกันไปเยี่ยมเป็นระยะๆ เมื่อปลายเดือนที่แล้วหลานสาวโทรมาบอกว่าคุณแม่ป่วยเป็นไข้และเพ้อ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ผมและพี่สาวเดินทางไปเยี่ยม หลังจากนั้นก็ได้รับแจ้งว่าคุณแม่ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ผมก็ได้รับข่าวว่าคุณแม่เข้าโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง ผมและพี่สาวเดินทางไปเยี่ยม ครั้งนี้คุณแม่อาการทรุดลงกว่าครั้งก่อน พูดไม่ได้ และต้องให้อาหารทางสายยาง ผมและพี่สาวเฝ้าคุณแม่อยู่สองวัน หมอบอกว่าอาการทรงตัวให้นำกลับไปอยู่ที่บ้านได้ คุณแม่จึงออกจากโรงพยาบาลกลับมาอยู่ที่บ้านเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ผมและพี่สาวก็เดินทางกลับ ในวันเสาร์ที่ 11 ก.ค. ผมได้รับโทรศัพท์จากหลานสาวคนโตว่าคุณม่เสียชีวิตแล้วที่บ้านเวลาประมาณ 11.30 น. แจ้งความแล้ว ให้ผมและพี่สาวรีบเดินทางมาโคราชด่วน เมื่อผมไปถึงคุณแม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเคลื่อนไปทำพิธีรดน้ำศพที่วัด
การสวดพระอภิธรรมเป็นไปอย่างเรียบร้อย 3 วัน และวันฌาปนกิจ ผมและพี่สาวตั้งใจจะเก็บกระดูกของคุณแม่ไปลอยอังคาร แต่เกิดเหตุปัญหาขึ้นก่อน เนื่องจากทางหลานๆ ที่โคราชไม่ยอมให้นำเถ้ากระดูกไปลอยอังคาร อยากให้เก็บไว้ในสถูปรวมกับญาติๆ ที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ผมและพี่สาวยืนยันว่าต้องการนำส่วนหนึ่งไปลอยอังคาร ในที่สุดทางหลานๆ ก็ยอม แต่เค้าขอไม่ให้ใบมรณะบัตรและบัตรประชาชนของคุณแม่แก่ผมและพี่สาว หลานๆ ให้เหตุผลว่าทางฝ่ายเค้าดูแลคุณแม่มากกว่าผมและพี่ โดยเฉพาะเวลาที่ท่านป่วย เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ พี่สาวและผมเป็นเพียงแค่บุตรบุญธรรม มิใช่สืบสายเลือดโดยตรงเหมือนพวกหลานๆ จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องการครอบครองใบมรณะบัตรและบัตรประชาชน ซึ่งเพื่อนบ้านในละแวกนั้นที่มาร่วมงานศพก็สนับสนุนการกระทำของหลานๆ นอกจากนี้ ฝ่ายหลานๆ เรียกร้องให้พี่สาวและผมไปเปลี่ยนนามสกุลโดยเร็วที่สุด เพราะถือว่าไม่ได้สืบสายเลือด มิฉะนั้น เค้าจะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลขับออกจากนามสกุล โดยถ้าจะมานำเถ้ากระดูกไปลอยอังคาร ก็ให้ไปที่ว่าการอำเภอยื่นเรื่องขอเปลี่ยนนามสกุลไปเลยในวันรุ่งขึ้น
ผมและพี่สาวจึงกลับมาปรึกษากันที่บ้าน และตกลงกันว่าเราจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายหลานๆ อีก และจะขอประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณแม่ด้วยตัวเอง เพราะถ้าไปเอาเถ้ากระดูกในวันรุ่งขึ้น ปัญหาจะตามมาอีกมากมายไม่รู้จบ และผมก็ไม่เข้าใจและรับไม่ได้กับข้อเรียกร้องเรื่องการเปลี่ยนนามสกุล เพราะผมไม่ได้ต้องการจะมีส่วนแบ่งอะไรทั้งสิ้นในบ้านที่พวกเค้าอยู่ อนึ่ง ผมจำได้ว่าคุณแม่มีหีบกำปั่นเก็บของมีค่าส่วนตัวและสมุดบัญชีธนาคารของท่าน และมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธรที่ผมเป็นคนเช่าให้เป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดของท่านหลายปีมาแล้วอยู่ที่บ้านนั้น แต่ตอนที่ผมเข้าไปเก็บทรัพย์สินของคุณแม่ ผมไม่เจอทั้งสามอย่างเลย เลยเก็บแต่ซองเอกสารต่างๆ ของท่านหลายซองกลับมา ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าทรัพย์สินบางอย่างของท่านคงมีคนเอาไปแล้ว
เมื่อกลับมาเปิดซองเอกสารทุกซองดูอย่างละเอียด พบว่าใบมรณะบัตรของคุณพ่อของผมหายไป ใบสูติบัตรของผมและพี่สาวหายไป และใบหุ้นธนาคารของคุณแม่หายไป โชคดีครับที่เราพบสมุดบัญชีธนาคารทั้งหลายของท่านอยู่ครบ
ข้อกังวัลที่ผมอยากจะขอคำปรึกษาแนะนำคือ
1. ข้อเรียกร้องให้ผมและพี่สาวไปเปลี่ยนนามสกุล มิฉะนั้น หลานๆ จะฟ้องศาลขับออกจากนามสกุลนั้น กระทำได้หรือไม่ครับ 2. เอกสารสำคัญต่างๆ ที่หายไปนั้น เมื่อรวมกับใบมรณะบัตรและบัตรประชาชน์ของคุณแม่ ถ้าอยู่ในครอบครองของฝ่ายหลาน พวกเค้าจะดำเนินการอะไรทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องและเปลี่ยนแปลงสิทธิอะไรได้ไหมครับ 3. การจะดำเนินการทางนิติกรรมใดๆ กับทรัพย์สินของคุณแม่ ฝ่ายผมต้องยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกก่อนใช่ไหมครับ และฝ่ายหลานจะยื่นขอคำสั่งแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกได้หรือไม่
ผมขอความกรุณาให้คำแนะนำในเรื่องดังกล่าวด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ |