การแบ่งทรัพย์สิน สามีภรรยา
สวัสดีค่ะ
ดิฉันมีปัญหาในครอบครัวค่ะ คือ
คุณพ่อเช่าซื้ออาคาร
พาณิชย์ไว้เป็นชื่อคุณพ่อพร้อมค้าขายที่อาคารนั้นเริ่มตั้งแต่ 26 ปีที่แล้ว แต่กิจการนั้นให้ญาติขายของให้ในร้าน
ส่วนคุณพ่อชอบออกไปเที่ยวแต่อ้างว่าออกไปหาเงินจึงไม่เฝ้าร้าน ดังนั้นจึงมีการทุจริตตลอดแต่ยังไม่มากในช่วง10กว่าปีแรก
เพราะคุณแม่ช่วยดูแลกิจการช่วงก่อนไปทำงานและหลังเลิกงาน
คุณแม่ไม่กล้าลาออกมาเพราะกิจการและตึกเป็นชื่อคุณพ่อ
ซึ่งเวลานั้นคุณพ่อกะคุณแม่มีปัญหากันตลอดเนื่องจาก
คุณพ่อมีเรื่องผูหญิงให้แม่เสียใจตลอดเวลา จนเมื่อประมาณ 13ปีที่แล้วพ่อพิการ
ก่อนพิการก็ได้ทำร้ายร่างกายแม่ เนื่องจากเรื่องผู้หญิงเช่นกัน ตลอดเวลา 3 ปีแรก แม่ต้องดูแลพ่อตลอดในช่วงกลางคืน (พลิกตัวทุกครึ่งชั่วโมง และเรื่องขับถ่าย) กลางวันต้องไปทำงานราชการ กลางวันจ้างพี่เลี้ยง 2 คนดูแล ส่วนดิฉันเรียนที่ต่างจังหวัดไกลบ้านเกิดกลับมาหาที่บ้านได้อาทิตย์ละครั้ง
ส่วนกิจการ ที่ค้าขายก็ให้ญาติดูแลไปเช่นเดิม
1. ปัญหาการเงินเริ่มเกิดขึ้น เพราะการทุจริตของญาติ
2. ก่อนพ่อพิการก็ไปสร้างหนี้สินจน จะโดนยึดบ้าน (บ้่านที่พ่ออยู่ปัจจุบัน) มีหมายศาลมา เมื่อปี 2547
แม่ กับดิฉันต้องหาเงินมาใช้หนี้บ้านแทนพ่อ รวมถึงเริ่มหาเงินใช้หนี้กิจการกับยี่ปั้วที่ร้านเราซื้อของ
เป็นเวลาประมาณ 2 ปี
กว่าที่ธุรกิจจะกลับมาเลี้ยงตัวได้เป็นปกติแต่ไม่มีเงินเหลือเก็บ
แม่ ให้ดิฉันเปลี่ยนชื่อเจ้าของกิจการเป็นของดิฉันประมาณ5-6 ปีที่แล้วเนื่องจากพ่อไม่เคยคิดจะโอน
บ้านหรือสิทธิการเช่าตึก ให้ลูก แม่คิดว่าพ่อจะได้ไม่กล้าไล่ลูกหนีจากธุรกิจ
เนื่องจากพ่อมีครอบครัวใหม่โดยไม่หย่ากะแม่
ตลอดเวลาทางแม่และดิฉันได้เลี้ยงดูเป็นจำนวนเงิน ประมาณ 25000-30000 ต่อเดือน เป็นเวลา 10 ปีตั้งแต่พ่อป่วย
แต่4 ปีหลังดิฉันเปลี่ยนงานเลยสามารถให้พ่อได้แค่ 15000 บาท สรุปพ่อไม่พอใจ แม้กระทั่่ง 10
ปีก่อนที่ให้เยอะๆก็ไม่เคยพอ พ่อต้องขอญาติเสมอ และ
ญาติก็ดีมากช่วยตลอดเพราะญาติพ่อรวย
แต่ดิฉันกับแม่ไม่มีใครให้เงินต้องหามาด้วยความลำบาก แต่พ่อก็ว่าไม่เลี้ยง
ดิฉันกับแม่จ่ายเงินกับธุรกิจให้ฟื้นคืนมาเป็นปกติด้วยเงินไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท และให้ญาติไปทำธุรกิจที่อื่น
เพราะญาติได้เงินไปเยอะเราก็ไม่ได้ฟ้องร้องอะไร
ปัญหาตอนนี้คือ
ถึง เวลาต่อสัญญาตึก (ตึกนี้แม่อยู่และดูแลกิจการให้ดิฉัน) พ่ออยากขายตึกแล้วให้เอาสินค้าที่เป็นกิจการดิฉันย้ายไป
เหมือนกับไล่ที่ดิฉัน แล้วจะแบ่งให้แม่ไม่ถึงครึ่งที่เหลือพ่อจะเอาไป
แต่พ่่อขายตึกไม่ได้เนืื่องจากทางเจ้าของคือของเทศบาล ต้องให้แม่เซ็นยินยอมด้วย
ดังนั้นพ่อเสนอแม่ว่าถ้าแม่ไม่ยอมเซ็นขายให้คนอื่น พ่อจะไปยกเลิกสิทธ์การเช่าตึก
จะได้ไม่ต้องมีใครได้เลย (เชิงขู่เพราะมีญาติมาด้วยค่ะให้แม่กลัว)
1. อยากถามท่านอาจารย์ว่าคุณแม่กับดิฉันมีสิทธฺ์ในการยับยั้งที่พ่อจะไปยกเลิกการต่อสัญญาตึกได้
หรือไม่คะ คือถ้าปล่อยให้สัญญาขาด เทศบาลจะประมูลตึกให้คนมาเช่าต่อ
คือหนูกลัวประมูลไม่ได้ค่ะ นั่นหมายถึงรายได้หนูก็จะขาดไปขอคำแนะนำด้วยค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงรอทางเทศบาลเรียกไปจ่ายเงินค่าเช่าเซ้งต่ออีก
15 ปีค่ะ
2. ถ้าคุณแม่ทำเรื่องจะหย่ากะคุณพ่อตอนนี้จะสามารถเรียกร้องให้แบ่งสิทธิ์การเช่าตึกเป็นคนละครึ่งกะคุณแม่ได้หรือไม่คะ
และบ้านที่พ่ออยู่ก็แบ่งที่กันคนละครึ่ง ไปเลยจะได้ไม๊คะ แต่ปัญหาคือสัญญาเช่าจะหมดปลาย
สิงหาคมนี้ค่ะ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรทันได้บ้างในการรักษาสิทธฺ์
ในการที่จะเช่าตึกต่อไปค่ะ
3. ตอนนี้คุณพ่อไม่อยากหย่ากะแม่เพราะอยากได้ขายตึกเอาเงินไปใช้ก่อนแล้วบ้านที่พ่ออยู่ตอนนี้ยังติดธนาคารดิฉันเป็นคนรับภาระหนี้
พ่อคงคิดว่าถ้าหย่าตอนนี้ต้องแบ่งคนละครึ่ง คือ ตึกแม่ได้
บ้านพ่อได้ถ้าเป็นแบบนี้พ่อเลยไม่ยอมหย่า ทั้งที่ ปลายปีก่อนมาบังคับแม่ให้หย่า
เซ็นใบหย่าทิ้งไว้เพื่อให้แม่เซ็นพอแม่จะหย่าจริง
พ่อก็ไม่พอใจในเรื่องการแบ่งสมบัติ พ่อเลยไม่หย่า สรุปพ่ออยากได้มากที่สุด
แต่ไม่เคยรับภาระหนี้ใดๆ ตามปัญหาที่กล่าวมา และตัดะพ่อลูกกะดิฉันเนื่องจากไม่พอใจเรื่องเงินที่ดิฉันให้น้อยไปเลยโกรธค่ะ
ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ ว่าควรจะให้แม่รีบฟ้องหย่าเลยหรือให้ทำเรื่อง รักษาตึกก่อนหรือ
ต้องทำพร้อมกัน
4. จากสาเหตุที่ว่ามาแม่สามารถใช้เป็นเหตุฟ้องหย่าได้หรือไม่คะ
เพราะแม่ก็เห็นว่าพ่อพิการกลัวคนอื่นไม่เชื่อว่าแกสร้างปัญหาไรบ้างทั้งเรื่องผู้หญิงค่ะ
เลยอยากทราบว่าจะใช้เอกสารที่พ่อเซ็นมาว่าเป็นหลักฐานว่าพ่อต้องการจะหย่าเช่นกัน
แต่แบ่งสมบัติไม่ลงตัวเท่านั้นคะ ใช้ได้หรือไม่คะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ท่านอาจารย์ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เขียนยาวมาก แต่ปัญหามันสะสมนานจริงๆค่ะ |