เมื่อประมาณปี 54 ภรรยาของผมได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้มาร่วมลงทุนโดยบอกให้ไปชักชวนคนมาลงทุนเพิ่ม โดยได้ค่าตอบแทนร้อยละ 5 ต่อสัปดาห์ ซึ่งต่อมาก็มีผู้มาร่วมลงทุนด้วย หนึ่งในนั้นคือนาง ก. แต่อยู่มาปรากฏว่าเพื่อนของภรรยาไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย นางก. และภรรยาของข้าพเจ้าจึงนัดตกลงกัน แต่วันนั้นข้าพเจ้าได้ไปด้วย นาง ก.ให้ข้าพเจ้าซี่งรับราชการ เป็นผู้ลงนามในสัญญาเงินกู้และภรรรยาข้าพเจ้าเป็นผู้ค้ำประกัน โดยอ้างว่าไม่เชื่อใจภรรยาของข้าพเจ้า (ขณะทำสัญญามีพวกพ้องของนาง ก. ประมาณ 10 คน และทนายด้วย) ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักนาง ก. หรือรู้เรื่องในการทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้นระหว่าง นาง ก. กับภรรยาของข้าพเจ้า ต่อมานาง ก. นำเรื่องขึ้นฟ้องศาลในข้อหา รับสภาพหนี้, ผิดสัญญากู้ยืมเงิน ,ค้ำประกัน จึงขอรบกวนถามอาจารย์ดังนี้ครับ
1.ตัวผมสามารถต่อสู้ข้อกล่าวหาในเรื่องการกู้ยืมได้หรือไม่เพราะไม่ได้มีการกู้ยืมจริง
2.ที่ผมลงลายมือชื่อเป็นผู้กู้ในหนังสือสัญญาเงินกู้อย่างนี้ถือว่าเป็นการรับสภาพหนี้ไหมครับ
3.มีวิธีทางใดบ้างที่จะต่อสู้กับทางโจทก์(นางก.) ให้ศาลเชื่อว่า ไม่ได้กู้ยืมจริง
สุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ล่วงหน้าด้วยครับ
1. ตอบไม่ได้หรอกว่าสู้ได้หรือไม่ เพราะไม่เห็นหนังสือกู้ยืมเงิน จริงอยู่ตามกฎหมายการกู้ยืมเงินโดยไม่มีการกู้ยืมเงินกันจริง สัญญานั้นก็ใช้บั งคับไม่ได้ แต่การที่จะต่อสู้ว่าไม่ได้รับเงินกันจริงน่ะ เป็นเรื่องยากมาก
2. ขึ้นอยู่กับข่้อความในสัญญากู้ว่าเขียนเผื่อไว้อย่างไรหรือไม่
3. คงต้องปรึกษาทนายความ เขาจะได้ซักถามและดูเอกสารได้