ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    051115 การถอดถอนโดยใช้วิธีลงคะแนนลับสามารถแก้ปัญหาการครอบงำจากพรรคการเมืองได้หรือไม่tapranksan.klunkpudsa7 ตุลาคม 2558

    คำถาม
    การถอดถอนโดยใช้วิธีลงคะแนนลับสามารถแก้ปัญหาการครอบงำจากพรรคการเมืองได้หรือไม่
    ผมมีความเห็นว่าถ้าเราใช้วิธีถอดถอนโดยใช้เสียงของทั้งาองสภา อันเป็นรูปแบบถอดถอนที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับท่านบวรศักดิ์ ถ้าเราออกแบบให้การถอดถอนนายก และครมใช้วิธีลงคะแนนลับ น่าจะเป็นวิธีที่จะสามารถช่วยให้พรรคการเมืองไม่สามารถ ครอบงำ ผู้แทนราษฎร์ได้ ทำให้เป็นอิสระ จากพรรคการเมือง จะได้สามารถตัดสินมจในกรอบแห่งสามัญสำนึกของตนโดยไม่ต้องเกรงกลัว อิทธิพลพรรคการเมืองและนายทุนพรรค นี่น่าจะเป็นวิธีหนึ่งที่น่าจะแก้ปัญหานี้ได้. ผมเห็นว่าข้อดีของรัฐธรรมนูญปี40คือระบบการเลือกตั้งที่ได้รัฐที่เข้มแข็งมีศักยภาพสูง. ข้อดีของรัฐธรรมนูญปี50คือที่มาวุฒิสภา ที่มาจาการเลือกตั้งครึ่งหนึ่งจากจังหวัดล่ะหนึ่งคน จากสรรหาครึ่งหนึ่งที่ทำให้ได้องค์กรอิสระที่เข้มแข็ง กลไกตรวจมีคุณภาพดีเป็นที่ประจักษ์ เหมือนรถที่กำลังแรงม้าดีและมีเบรคที่ดี ส่วนร่างรัฐธรรมนูญปี58ฉบับปฏิรูปที่ตกไป คือระบบถอดถอนโดยใช้เสียงของทั้งสองสภาร่วมกัน จะทำให้รัฐบาลใส่ใจทุกจังหวัดมิใช่จะสนใจแต่จังหวัดที่เลือกตนที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมทั้งประเทศ และทำให้ฟังเสียงฝ่ายค้านข้างน้อย และกลุ่มพหุสังคมต่างๆในวุฒิสภาสรรหามากขึ้น   ผมว่าส.ส.เขตมีสัก300คนปาร์ตี้ลิสต์สัก80คน วุฒิสภาสัก150คน น่าจะพอครับ. เมื่อเกิดเหตุที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรและปราศจากนายกรัฐมนตรี ให้วุฒิสภาครึ่งนึงที่มาจากการเลือกตั้งแต่ล่ะจังหวัดสามารถเลือกนายกรักษาการณ์ได้  เพราะเป็นองค์กรเดียวที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเหมือนว่าสภาผู้แทนราษฎร ในเวลาเกิดวิกฤติแบบที่ผ่านมา. ให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทำหน้าที่ปฏิรูป ให้เป็นองค์กรอิสระขึ้นตรงต่อวุฒิสภา มีอำนาจหน้าที่เหมือนสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แบบนี้สังคมน่าจะพอรับได้กับองค์กรที่จะดำเนินการปฏิรูปต่อไป เพราะไม่เป็นรูปแบบเหมือนรัฐซ้อนรัฐ รูปแบบองค์กรก็เคยมีมาก่อน ผมขอเสนอความเห็นแค่นี้ครับ 
    คำตอบ
    ขอบคุณในความคิดเห็น จะนำไปเสนอคณะกรรมการ
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    7 ตุลาคม 2558