เรียน อาจารย์มีชัย ที่เคารพครับ

       ผมขอให้กำลังใจท่านในเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะคนไทยเราจะทำให้ถูกใจทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ข้อสังเกตของผมก็คือรัฐธรรมนูญฉบับหลัง ๆ ที่ผ่านมา ยิ่งร่างก็ยิ่งยาวมาก ยิ่งยาวมากก็ยิ่งเรื่องมากครับ เป็นไปได้ไหมว่าอย่าร่างให้มันยาวนัก แล้วให้มีมาตราเกี่ยวกับการตีความในบางเรื่องที่ไม่ได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญโดยตรงแทน และเพื่อไม่ให้มีการฉีกรัฐธรรมนูญบ่อย ๆ ผมอยากจะเสนอในเรื่องที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ กล่าวคือร่างรัฐธรรมนูญไทยออกเป็น 2 ฉบับ คือฉบับหลักกับฉบับรอง ในฉบับหลักนั้นให้บรรจุเฉพาะเรื่องที่เป็นเรื่องหลัก ๆ จริง ๆ เช่น หมวดที่เป็นบทนำ เรื่องหลัก ๆ ของประเทศชาติ กับหมวดที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ส่วนฉบับรองก็ให้บรรจุหมวดอื่น ๆ ในอนาคตใครที่อยากปฏิวัติให้มีสิทธิ์ฉีกได้เฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับรองเท่านั้น เป็นเพียงข้อเสนอแนะครับ แต่ทราบว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับการตัดสินใจ ซึ่งท่านจะต้องถูกตั้งคำถามตามมามากมาย

        สำหรับส่วนที่สองการปฏิรูปการศึกษา สืบเนื่องจากคนไทยเรามาไกลจนกู่ไม่ค่อยจะกลับแล้ว ดังนั้นการปฏิรูปอะไรก็แล้วแต่ มันจะมีคนที่พยายามเสาะหาช่องว่างมาแก้ต่างอยู่เรื่อย เอาข้างถูไปเรื่อยก็มีเยอะ ดังนั้นผมว่าการปฏิรูปการศึกษาของคนไทยเป็นเรื่องใหญ่ อาจจะเขียนในรัฐธรรมนูญฉบับรองหรือเปล่า ก็คงจะอยู่ที่ดุลยพินิจของ 21 อรหันต์จะพิจารณา การปฏิรูปการศึกษาที่ผมจะเสนอแนะ ไม่ใช่การแก้ปัญหาคนในปัจจุบัน เพราะมันแก้ไม่ได้แล้ว มาไกลแล้ว ดังนั้นหากคิดจะปฏิรูปคนจริง ๆ มันต้องวางอนาคต 20 ปีข้างหน้า นั่นก็คือปฏิรูประบบการศึกษาใหม่ให้กับเด็กตัวเล็ก ๆ และคนที่จะเกิดมาใหม่ โดยมองว่าอีก 20 ปี เราจะมีคนไทยพันธุ์ใหม่ที่เราจะหล่อหลอมมาเพื่อเป็นกำลังหลักในการพัฒนาชาติไทย จึงควรมีการวางระบบพัฒนาเด็กรุ่นใหม่ให้อยู่กับสิ่งแวดล้อมทางการศึกษาใหม่ มีคุณธรรมจริยธรรม รู้จักหน้าที่การเป็นพลเมือง เช่น วางระบบการศึกษาให้กับเด็กอนุบาลในปัจจุบันว่าจะให้เด็กไทยในอนาคตเป็นอย่างไร เมื่อจบชั้นอนุบาลเข้าประถมศึกษาก็ตามเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาในระดับประถม มัธยม ไปจนถึงอุดมศึกษา ระบบเก่า ๆ ก็ค่อย ๆ ให้มันหายไปตามเด็กไทยพันธุ์ใหม่ อาทิ การเรียนภาษาอังกฤษของเด็กไทย ตั้งแต่อนุบาลจนถึง ป.6 ไม่ต้องให้เรียนไวยากรณ์ใด ๆ เลย ให้เรียนเฉพาะการฟังและการฝึกพูดตามระดับความรู้ก็พอ เพื่อให้หูกับลิ้นมันเคยชินกับสำเนียงฝรั่ง พอเริ่มเข้าสู่มัธยมจึงค่อยให้เรียนไวยากรณ์ นั่นหมายถึงว่าเราต้องสร้างความพร้อมให้กับโรงเรียนอนุบาลต่าง ๆ จนถึง ป.6 ก่อน แล้ววางระบบให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนและปฏิรูปการศึกษาไปเรื่อย ๆ

       เห็นอาจารย์เรียกร้องให้ช่วยกันออกความคิดเห็น ผมก็ขอเสนอมาเพียงเท่านี้ก่อนครับ หากความคิดเห็นของผมพอจะมีประโยชน์และต้องการความคิดเห็นเพิ่มเติม ผมก็ยินดีครับ ทางอีเมล์ก็ได้ ขอบคุณครับ