ตามข่าวที่ออกมาทางสื่อว่าข้อเสนอของท่านในการร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับ ส.ส.ว่าจะมีการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ โดยบัตรเลือกตั้งบัตรใดได้คะแนนเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตแล้ว คนนั้นก็ได้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตไป แต่คะแนนที่ลงให้บัตรนั้นจะถูกตัดทิ้ง จะเอาคะแนนที่ลงให้กับบัตรเลือกตั้งที่ไม่ได้รับเลือกเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต ไปคำนวณเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเท่านั้้น ซึ่งสิ่งที่ผมรู้และเข้าใจมานี้ ถ้าถูกต้อง ผมขอแสดงความคิดเห็นเสนอต่ออาจารย์ดังนี้

        1.ไม่เห็นด้วย เพราะประชาชนหรือพลเมืองคนหนึ่งควรมีสิเลือกตั้งทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ แต่สำหรับการออกแบที่ท่านหรือ กรธ ออกมานั้นเป็นการใหห้สิทธิประชาชนมีสิทธิเลือกได้แบบใดแบบหนนึ่งเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เป็นการให้สิทธิประชาชนอย่างเสมอเหมือนและเท่าเทียมกัน จึงไม่เห็นด้วยในประเด็นนี้

2.ถ้าใช้บัตร ๆเดียวเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ใครได้แบบแบ่งเขตก็ได้เป็น ส.ส. ส่วนบัตรที่คะแนนไม่ได้แบบแบ่งเขตให้เอาไปคำนวณแบบัญชีรายชื่อ ฉะนั้นพรรคที่ได้ ส.ส.แบบแบ่งเขตจะไม่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหรือได้น้อยกว่าเจตนารมณ์ของประชาชานผูเลือกจึงไม่เห็นด้วย มีความความเห็นเสนอว่า ใครได้เป็น ส.ส.เขตก็ได้ไป แต่คะแนนทั้งหมดให้เอาไคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะสนองเเจตนารมณ์ของประชาชาชนผู้เลือก

3. การเลือกตั้งโดยใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ใครได้เป็น ส.ส.เขตแล้วคะแนนจะถูกตัดทิ้งไปเอาฉะเพาะบัตรที่ไม่ได้ ส.ส.แบบแบ่งขตไปคำนวณเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ิอการทำอย่างนี้จะเป็นการตัดสิทธิ์พรรคเล็กทิ้งไปไม่ให้มีโอกาสเกิดทางการเมือง เพราะว่าพรรคเล็กๆ จะไม่มีทุนส่งคนลงสมัครทุกเขต อาจส่งได้บางเขต เช่นพรรคมาตุภูมิ หรือพรรครักประเทศไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เมื่อไม่มีความสามารถส่งทุกทุกเขตหรือมากเขตได้ โอกาสที่จะได้คะแนนไปคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อก็ยิ่งมีโอกาสริบหรี่เต็มที แต่ถ้าใช้บัตรสองใบพรรคใดสมัครแบบบัญชรายชื่อแล้วถือว่าสมัครทั่วประเทศ คนจะเลือกพรรคนั้นมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถรวบรวมคะแนนที่ลงให้กับพรรคนั้นทั่วประเทศให้พรรคเล็กมีสิทธิมีเสียงในสภาได้ เช่น พรรคมาตุภูมิในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว ถ้าใช้บัตร ๆเดียวแบบที่ กรธออแบบในร่างรัฐธรรมนูญที่ร่างอยูนี้จะไม่มีโอกาสได้มี ส.ส.ในสภาเลย

         เป็นข้อเสนอตามความเห็นที่ได้คลุกคลีกับการเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมาครับ

มีชัย ฤชุพันธุ์
6 พฤศจิกายน 2558