การเลือกตั้ง สส. บัตรเดียวหรือสองบัตร

                ข้อดีข้อเสีย  ในการเลือกตั้งใช้บัตรเดียว (ตามแนวทางของคณะร่างฯ ของอาจารย์มีชัย)  และใช้สองบัตรตามแบบเยอรมัน  และให้ความสำคัญ ของบัตรที่ไม่เลือกใคร กล่าวคือ ผู้สมัครสส.แบบแบ่งเขตที่ได้คะแนนน้อยกว่า คะแนนไม่เลือกใครจะถูกตัดสิทธิการเลือกตั้งซ่อมหรือเลือกใหม่ในสมัยการประชุมนั้น และไม่นำคะแนนที่เลือกพรรคที่แพ้คะแนนไม่เลือกพรรคใด ไปคิดรวมกับเขตอื่นที่เลือกพรรคและชนะคะแนนไม่เลือกพรรคใดรวมทั้งคะแนนที่เลือกพรรคทั้งประเทศแต่แพ้คะแนนไม่เลือกพรรคใดทั้งประเทศ พรรคนั้นจะถูกตัดสิทธิ สส. บัญชีรายชื่อ

                ข้อดีของการใช้บัตรเดียว

1.     ทุกพรรคต้องส่ง ผู้สมัคร สส. ทุกเขตเพื่อจะได้คะแนนรวมเลือกพรรค มากขึ้น และจะต้องส่งคนดีที่ประชาชนชอบ เพื่อให้ชนะคะแนน ไม่เลือกใครในเขตนั้นๆ

2.     ถ้าเขตเลือกตั้งใด จับการกระทำทุจริตได้ พรรคนั้นจะถูกตัดคะแนนเลือกพรรคลงไปด้วย  ทั้งนี้การลงโทษต้องฉับไว มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาขึ้นได้

ข้อเสียของการใช้บัตรเดียว

1.     ผู้ลงคะแนนไม่สามารถแยกเยอะ การลงคะแนนแบบเลือกคน และเลือกพรรคได้ ต้องลงคะแนนไปในทางเดียวกัน คือเลือกหรือไม่เลือกทั้งคนและพรรค

2.     ผลประโยชน์ของคนที่ลงสมัคร สส. แบบแบ่งเขต และ สส. บัญชีรายชื่อไปในทางเดียวกัน จึงร่วมกันซื้อคะแนนเสียงมากขึ้น

ข้อดีของการใช้บัตรสองใบ

1.     ลดการซื้อเสียงลง เพราะผลประโยชน์ของ ผู้สมัคร สส. แบบแบ่งเขต และ สส. บัญชีรายชื่อ ขัดกัน ถ้าพรรคได้ สส. แบบแบ่งเขตมาก  พรรคก็เอาผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ไปเพิ่มเป็น สส. ของพรรคได้น้อย เพื่อให้ สส. ครบ ตามจำนวนคะแนนที่ประชาชนทั้งประเทศเลือกพรรค

2.     ประชาชนผู้ไปลงคะแนน มีโอกาสเลือกคน และเลือกพรรค ตามเจตนารมณ์ของตน ไม่ถูกบีบบังคับให้เลือก

ข้อเสียของการใช้บัตรสองใบ

พรรคการเมืองไม่ต้องส่งผู้สมัครสส.แบบแบ่งเขตครบทุกเขต และอาจจะชนะคะแนนไม่เลือกใคร ในเขตนั้นๆ โดยอาศัยความเด่นดังของเจ้าของพรรคนั้นๆ