กระผมสมรสกับภรรยามา 10 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน 5 ปี และ 4ปี ภายหลังภรรยาได้ประสงค์จะไปมีชีวิตครอบครัวใหม่กับชาวต่างชาติ จึงได้หย่าขาดจากกัน โดยมีข้อตกลงการหย่าคือ 

1. ให้บุตรทั้ง 2 คนอยู่ในการปกครองของบิดาฝ่ายเดียว

2. ฝ่าย ญ จะส่งค่าเลี้ยงดูบุตรท้ง 2 เดือนละ 5000 จนบุตรบรรลุนิติภาวะ

   ผ่านไป 7 ปี ฝ่าย ญ ได้ไปอยู่กับชาวต่างชาติ มีฐานะดีขึ้น และก็ได้ส่งเสียตามเงื่อนไข ตลอดมา แต่ตอนนี้ ฝ่าย ญ ประสงค์จะเป็นผู้ปกครองบุตรเพียงฝ่ายเดียว โดยอ้างว่ากระผมมีหนี้สินล้นพ้นตัว ปัจจุบันไม่มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ไม่สามารถดูแลบุตรได้ กระผมถามว่า ถึงกระผมจะมีอาชีพกรรมกร มีรายได้ 100-200 บาท กระผมก็เป็นคน มีมือมีเท้า ประกอบอาชีพสุจริต ไม่เคยต้องโทษคดีอาญา ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้สังคม มีความเป็นมนุษย์เท่ากับคนอื่นๆ  หากฝ่าย ญ ยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อเป็นผู้ปกครองเด็กฝ่ายเดียวจริง กระผมต้องยกบุตรให้อยู่ในความปกครองของฝ่าย ญ เพียงเพราะเขามีเงิน เพราะกระผมจน เช่นนั้นหรือ  กระผมไม่เคยห้ามในการที่แม่จะมาพบลูก ไม่เคยบอกลูกด้วยซ้ำว่าแม่ไปแฟนใหม่ ไปอยู่กับฝรั่ง ไม่อยากให้เขารู้สึกเกลียดแม่ ที่แม่ทิ้งเขาไป  เพราะน้ำเงินทำให้คนไม่มีน้ำใจ

วันนี้ เขากลับมาจากต่างประเทศ และเขาให้ทนายโทรมา เพื่อให้กระผมเซ็นโอนบุตรให้เขา  หากไม่ยินยอม ฝ่าย ญ จะให้ทนายยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อของปกครองบุตร กระผมคงไม่มีเงินไปจ้างทนายเพื่อสู้คดี  หรือแม้แต่การไปติดต่อทนายอาสา กระผมไม่รู้จะไปสู้กับเขาอย่างไร การเป็นคนจน ทำให้กระผมเป็นคนที่ไม่มีค่าในสายตาของฝ่าย ญ จนทำเรื่องแบบนี้ แล้วที่ผ่านมา 7 ปี ถึงจะต้องไปหยิบยืม กู้หนี้ยืมสินมา เพื่อเลี้ยงลูก ก็เขาเป็นลูกผม ผมเลี้ยงลูกตั้งแต่อนุบาล จนตอนนี้ เข้า ม.1 ถ้าวันนี้ผมจะเป็นคนที่มีหนี้สินจนอาาจจะถูกฟ้องล้มละลาย ศาลท่านจะตัดสินความเป็นมนุษย์พ่อของผม เพราะผมจน มีหนี้สิน ไม่มีงานมั่นคง แล้วให้ ฝ่าย ญ มาปกครองบุตรแทน  

ในมุมมองของอาจารย์คิดว่ายังไงครับ ผมไม่มีสิทธิปกครองบุตร เพราะผมจนใช่มั้ย

มีชัย ฤชุพันธุ์
29 กันยายน 2559