มรดกไม่มีพินัยกรรม ผู้จัดการมรดกทำผิดหน้าที่
กราบเรียนท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์
ดิฉันเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา มีพี่น้องรวม 5 คน พี่ชาย 3 คน และน้องชาย 1 คน เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2541 บิดา ถึงแก่ความตายด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โดยมิได้ทำพินัยกรรมหรือตั้งบุคคลใดเป็นผู้จัดการมรดกไว้ ก่อนตายบิดามีทรัพย์มรดกเป็นอาวุธปืน รถยนต์ บ้านและที่ดิน ดังระบุในคำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดก (31 ทวิ) ซึ่งนับแต่บิดาเสียชีวิตจวบจนปัจจุบัน ดิฉันยังมิได้รับทรัพย์มรดกใด ๆ ทั้งสิ้น
ต่อมาศาลจังหวัดสมุทรปราการได้มีคำสั่ง แต่งตั้งพี่ชายคนที่ 3 เป็นผู้จัดการมรดกตามคำร้องขอ โดยให้มีสิทธิและหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๗๑๓ ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2542 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดิฉันได้พยายามเรียกร้องสิทธิในฐานะบุตรชอบด้วยกฏหมายต่อผู้จัดการมรดก ทางวาจา ทางไลน์ และทางจดหมาย เป็นลายลักษณ์อักษร ให้ทำการชี้แจงบัญชีทรัพย์มรดก และจัดสรรแบ่งทรัพย์มรดกทั้งหมดอย่างเป็นธรรม แต่ผู้จัดการมรดกกลับเพิกเฉย อีกทั้งยังกระทำผิดหน้าที่ อาทิเช่น มีการโอนที่ดินมรดกบางส่วนให้ตนเองและ ทายาทบางคนโดยไม่ได้มีการบอกกล่าว และมีการเก็บกินผลประโยชน์ที่ดินจากการปล่อยเช่าหลังโอนไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้จัดการมรดกยังได้ขายทรัพย์ มรดกบางส่วน เช่น รถยนต์ ไปโดยมิได้มีการบอกกล่าว นอกจากนี้ผู้จัดการมรดกยังขอให้ทายาทโอนบ้านที่เป็นหนึ่งในทรัพย์มรดกให้ตนแต่ผู้เดียว และหลังจากโอนแล้วผู้จัดการมรดกก็ทำสงครามจิตวิทยา บีบคั้นจนดิฉันไม่สามารถทนอยู่ได้ จึงจำต้องหาซื้อบ้านเป็นของตนเองและรับแม่กะน้องชายออกมาอยู่ด้วย สาเหตุที่ดิฉันจำยอมโอนให้เนื่องจากผู้จัดการมรดกเองรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะด้วยสัจวาจาว่าจะดูแลกิจการต่อจากบิดาและจะไม่เปลี่ยนอาชีพหรือเลิกกิจการเป็นอันขาด และจะเสียสละหารายได้เพื่อส่งเสียน้องชายคนเล็ก ให้จบปริญญาตรี เพื่อให้เกิดความเสมอภาคระหว่างพี่น้อง แต่หลังจากน้องชายเรียนจบไม่นานผู้จัดการมรดกก็ประกาศขายบ้าน และสต็อคสินค้าทั้งหมดในร้าน เพื่อเลิกกิจการ และสอบเข้ารับราชการ แต่ปรากฏว่าสต็อคสินค้า ขายได้หมดอย่างรวดเร็วในราคาเท่าทุนหรือต่ำกว่าทุน แต่บ้านที่ประกาศยังขายไม่ได้เลยปล่อยเช่าแทนเพื่อให ้เกิดรายได้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้จัดการมรดกยังร่วมมือกับ ทายาทคนอื่นๆ ปิดบังซ่อนเร้น บิดเบือนความเป็นจริง และแอบโอนทรัพย์มรดกให้ทายาทบางคนโดยมิได้บอกกล่าว ถึงแม้ดิฉันได้ไต่ถามและชี้แจงว่าจะไม่เอาความหากผู้จัดการมรดกทำการชี้แจงบัญชีทรัพย์มรดกและแบ่งทรัพย์มรดกอย่างเป็นธรรมตามกฏหมาย แต่ผู้จัดการมรดกกลับไม่สำนึกและยืนกรานปฏิเสธไม่พูดความจริง แถมยังร่วมกันวางแผนกลั่นแกล้งรังแก ผลักไสดิฉันออกจากกองมรดกทีละน้อย ทั้งๆที่รู้ว่าดิฉันตกทุกข์ได้ยาก ทั้งๆที่ทราบดีว่า ดิฉันได้ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ม.ค. 2558 และตกงานจนปัจจุบัน จนต้องกู้หนี้ยืมสินล้นพ้นตัว จากหนี้เดิม สองล้านกว่าเพิ่มเป็นสี่ล้านกว่าบาท และวงเงินกู้บัตรเครดิตเต็มจนกู้ไม่ได้อีก ดิฉันจึงมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ดิฉันไม่มีสตางค์พอจะจ้างทนาย แต่ด้วยเหตุผู้จัดการมรดกเป็นพนักงานรัฐ ตำแหน่งพนักงานคดี ระดับชำนาญการ ประจำศาลแขวงสมุทรปราการ สังกัดกระทรวงยุติธรรมนั้นรู้ตัวบทกฏหมายดีกว่าประชาชนทั่วไป แต่กลับใช้กฏหมายในทางมิชอบกลั่นแกล้งรังแกพี่น้องท้องเดียวกันอย่างไร้ซึ่งจริยธรรม เมตตาธรรม และคุณธรรม ไร้ซึ่งจรรยาบรรณในวิชาชีพ บีบคั้นจนดิฉันสิ้นไร้ไม้ตอก ไร้หนทาง ไม่สามารถเอาทรัพย์มรดกในส่วนของ ตนเองมาบรรเทาความเดือดร้อน อีกทั้งยังแนะนำให้ดิฉันแก้ปัญหาโดยการหางานใหม่ให้ได้และพี่ชายคนโตก็แนะนำให้ขายบ้านที่ดิฉันหามาด้วยตนเองและยังผ่อนชำระอยู่กับทางธนาคาร เพื่อแก้ปัญหาของตนเอง เนื่องจากเป็นครอบครัวคนจีนมารดารักลูกชายมากกว่าเสียหน่อย และค่อนข้างสูงอายุมากแล้ว หากต้องเบิกมาให้การในชั้นศาลหรือร่วมพิจารณาคดี ดิฉันเกรงว่ามารดาจะรับไม่ไหว
ดิฉันจึงเรียนมาเพื่อเรียนปรึกษาท่านในตัวบทกฏหมาย และวิธีการที่จะจัดการกับผู้จัดการมรดกและทายาทที่ร่วมกันฉ้อโกงดังกล่าว รวมถึงขั้นตอนต่างๆทางกฏหมาย ว่าควรดำเนินการเช่นไรน่าจะดีที่สุด
ขณะนี้ดิฉันลำบากมาก ได้รับเดือดร้อนทั้งกายและใจ จากการเพิกเฉยต่อการร้องขอความอนุเคราะห์ให้ทำการชี้แจงทรัพย์มรดกและจัดสรรมรดกอย่างเป็นธรรมของผู้จัดการมรดก และการกระทำร่วมของทายาทคนอื่นๆ จนไม่สามารถนำทรัพย์มรดกในส่วนของตนมาทำให้งอกเงยหรือบรรเทาความเดือดร้อนของตนได้ ดิฉัน ไม่มีสตางค์มากพอที่จะจ้างทนายความ จึงมีความประสงค์ ขอความอนุเคราะห์จากภาครัฐทางด้านทนายความและค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินคดี สำหรับเรื่องนี้ดิฉันขอให้ท่านกรุณาแนะนำด้วยค่ะว่าต้องติดต่อหน่วยงานไหนและผ่านช่องทางใดน่าจะได้ผลรวดเร็วสุด
หมายเหตุ จริงๆแล้วดิฉันไม่เคยทราบเลยว่าพี่น้องร่วมกันวางแผนยักยอกทรัพย์ และเอกสาร 31 ทวิก็ได้มาด้วยเหตุบังเอิญไม่นาน
ขอขอบคุณมาเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้และขอแสดงความ นับถือ |