ครอบครัว รบกวนนะคะถามว่า 1. สามีทำร้ายบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถดำเนินชีวิตปกติได้จนปัจจุบัน ไม่สามารถขับรถได้เกินห้านาที ถ้าเกินนั่นหมายถึงต้องทนเจ็บ เจ็บทุกอิริยาบถแม้ปัจจุบัน การเดินและทำอะไรได้ช้ามากๆเหมือนคนอายุ70 ปี ทั้งที่ยังแค่ 50กว่าและใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากเพราะเขาเปลี่ยนไปและเริ่มมีเงินมากขึ้น ทางเราได้ฟ้องดำเนินคดีอาญา 2. ทางเราติดต่อเขาขอเข้าไปเอาทรัพย์สินของเราในบ้านเรา เงินเรา แต่เขาใช้เล่ห์เหลีี่ยมเป็นชื่อเขาตั้งแต่สมัยก่อน แต่ยังถือเป็นสินสมรส แต่เขากลับเปลี่ยนกุญแจทัั้งหมด เราจึงเข้าไปขนของเราออกมา เขาแจ้งความหาว่าเราบุกรุก และจะดำเนินคดีอาญากับเรา บ้านที่เราซื้อให้น้องชายเขา น้องชายเขาไม่ได้อยู่ แต่เราใช้้วางของเราก็เข้าไปเอาด้วยเขาถือโอกาสนั้นแจ้งความ 3. มีการประณีประณอมเซ็นต์สัญญากันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่เอาความกัน โดยยอมเสียเปรียบเอาของเราคืนเท่านั้้น ไม่แตะทรัพย์สินเขาเลย ซึ่งมีจำนวนมากกว่าเรา และ ว่าให้เขาโอนบ้านที่เราเคยจ่ายเงินไป แต่่เป็นชื่อเขา และ คืนมาทุกหลังที่เป็นชื่อเราอยู่แล้วและไม่ยุ่งเกี่ยวกับบ้านทั้งสา่มหลังอีกต่อไป รอเขาหาบ้าน และเขาขอร้องให้รอ ตั้งแต่มีคถึงธค แต่พอถึงธันวาคม2559ตามสัญญาเมื่อเราทวงถามกว่าจะได้คำตอบเดือนกุมภาพันธ์เขากลับอ้างว่าต้องรอบ้านเขาเสร็จก่อนกำลังสร้างยังโอนไม่ได้ เราบอกว่าโอนก่อน แล้วเซ็นต์สัญญากันว่าไม่ไปยุ่งจนถึงธันวา60ก็ได้ แต่เขาไม่ยอมโอนให้ ดังนั้น จะฟ้องบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงตามศาลสั่ง ต้องใช้ระยะเวลาเท่าใดในการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงได้คะ
ทราบมาว่าถ้าหากมีการทำร้ายร่างกายสาหัส แต่เป็นคดีครอบครัวให้ประณีประณอมได้ แต่ถ้าหากเขาบิดพริ้ว สามารถดำเนินคดีอาญาทำร้ายร่างกายสาหัสได้อีก เพื่อให้เขาชดใ้ช้ค่าสินไหมที่รวมถึงอนาคตที่เราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายดูแลตัวเราเองอีกมากมาย เพราะเสมือนคนพิการได้ไหมคะ
มีวิธีการใดแนะนำที่ทำให้จบเรื่องโดยเราไม่เสียเปรียบและไม่ถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีกค่ะ เพราะถูกหลอกให้ออกไปก่อนมีแล้วจะให้ๆๆๆมาตลอด แต่พอเขาเริ่มมีเงินเขาถีบหัวเราส่งค่ะ ไปมีคนใหม่ แต่เขายังอยากได้ทรัพย์สินที่เขาฉ้อโกงเราเป็นชื่อเขาและอยากได้สินสมรสเราอีกค่ะ และมีเล่ห์กล ด้วยการแอบโอนเงินจำนวนมากของเขาออกจากบัญชีที่เขามีไปในช่วงที่ให้เรารอเขาในสัญญาค่ะ เพราะเคยตรวจสอบพบว่าเขามีเงินจำนวนมากก่อนที่เขาขอประณีประณอมค่ะ เขามีเจตนาเพื่อให้เขาไม่มีทรัพย์สินเหลืออยู่ และจะมาขอแบ่งสินสมรสทั้งหมดค่ะ (เขาจ่ายบ้้านสิบเปอร์เซนต์และให้เราออกเงินไปก่อน90เปอร์เซนต์ค่ะ)
เพิ่งเจรจาเมื่อวานแต่ทางเขาบิดพลิ้วอีก และเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะส่งฟ้องศาลให้ในสัปดาห์หน้าค่ะ
ถ้าหากเรื่องถึงศาลแล้วพบเจตนาชั่วของเขานั้น เราสามารถขออำนาจศาลครวจสอบการโอนเงินได้ใช่มั้ยคะ ใช้เวลานานมั้ยคะ
และเราสามารถไปฟ้องบังคับทรัพย์สินเขาที่ต่างประเทศได้ด้วยมั้ยคะ อย่างไรคะ เพราะเท่าที่ทราบมา เขาโยกย้ายทรัพย์สินไปพม่า แหล่งที่เขาทำธุรกิจดังค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ รออยู่ด้วยความร้อนใจค่ะ
จริงๆอยากให้เรื่องจบไวๆ ตามสัญญาที่ตกลงไว้ แต่เขาทำแบบนี้ทำให้จำเป็นต้องคิดเรื่องคดีอาญากันค่ะ
|