ถูกจับกุมเข้าห้องขัง ข้อหาเมาแล้วขับขณะมาติดต่อโรงพัก
กราบเรียนท่านมีชัย ดิฉันมีความทุกข์ใจเป็นอย่างมากจะขอเรียนปรึกษา ดังนี้คะ ดิฉันทราบว่าเพื่อนเกิดอุบัติเหตุรถชนเนื่องจากเมาแล้วขับ เมื่อเวลา01.30น. คู่กรณีคือรถบรรทุกเสียหายเล็กน้อยและไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนรถเพื่อนพังเสียหายขับไม่ได้และเพื่อนดิฉันบาดเจ็บแน่นหน้าอก ดิฉันจึงพาไปตรวจที่รพ. แล้วเพื่อนถูกตำรวจตามมาจับไปสน.โดยเพื่อนขึ้นรถไปกับตำรวจ แล้วดิฉันจึงขับรถตามไปที่สน.ทีหลัง เพื่อตามไปเพื่อเจรจากับประกันภัยและช่วยเหลือเพื่อนเพราะเป็นผู้หญิง เมื่อเพื่อนเป่าเครื่องวัดแล้วผลเป็น95 ก็ยอมรับว่าเมาจริง ขณะที่ดิฉันไปถึงจึงได้ยืนพูดคุยกับประกันของคู่กรณีที่หน้าห้องแจ้งความบริเวณสน. แล้วเพื่อนกำลังจะเดินมาคุยด้วย ตำรวจ4นายกลับช่วยกันจับเพื่อนเข้าห้องขัง อ้างว่าจะหลบหนี เพื่อนร้องให้ช่วยและปัดป้องไม่ต้องการเข้าห้องขังอย่างชุลมุน ดิฉันเข้าไปช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้นตำรวจเหมือนจะโกรธที่ดิฉันเข้าไปช่วยเพื่อน จึงมาบังคับดิฉันให้เป่าวัดแอลกอฮอล์ แต่ดิฉันไม่เป่าเพราะไม่ได้เมาและคิดว่าเราไม่ได้ทำความผิดใดเลย ตำรวจจะกลั่นแกล้งบังคับให้เป่าไม่น่าจะถูกต้อง ดิฉันจึงไม่เป่า แต่ตำรวจอ้างสงสัยเมาแล้วขับ โดยอ้างเปิดดูจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังแล้วเห็นดิฉันขับรถมาจอดในสน. และได้จับกุมดิฉันเข้าห้องขังขาดอิสรภาพไม่ได้ติดต่อญาติเป็นเวลา5ชม. ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อหาหรือให้เซ็นต์รับทราบข้อกล่าวหาขณะจับกุมและไม่แจ้งสิทธิ์ของผู้ถูกจับกุมด้วย ดิฉันและเพื่อนถูกต้องข้อหา (ทราบในตอนเช้าขณะที่ญาติมาประกันตัว) คือ 1.เมาแล้วขับ 2.ขับรถโดยประมาท ฯ3.ขัดขืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ 4.ร่วมกันทำร้ายเจ้าหน้าที่ จึงมีคำถามท่านดังนี้ 1.ขณะจับกุมอยู่บนสน.และไม่ได้กำลังขับรถ แต่ตำรวจไปเปิดดูกล้องวงจรปิดย้อนหลังแล้วอ้างเหตุจับกุมซึ่งหน้า ข้อหาเมาแล้วขับได้หรือไม่ อย่างไร 2.ข้อหาเมาแล้วขับ แล้วถูกจับเข้าห้องขังโดยไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่ตำรวจไม่ให้สิทธิเสียค่าปรับหรือประกันตัว ถูกต้องแล้วหรือไม่ อย่างไร 3. ดิฉันร้องขอทนายขณะจับกุม (ช่วงที่บังคับให้เป่า) แต่ตำรวจไม่ดำเนินการให้ ตำรวจมีความผิดหรือไม่ อย่างไร 4. การปัดป้องเพื่อปกป้องตัวเองโดยไม่เจตนา ขณะตำรวจ4นายรุมลากผู้หญิงเข้าห้องขัง ถือเป็นการทำร้ายเจ้าหน้าที่หรือไม่ 5.ดิฉันขอท่านฯได้โปรดช่วยชี้แนะแนวทางที่ดิฉันควรจะทำด้วยคะ ดิฉันจึงเรียนมาเพื่อขอความอนุเคราะห์จากท่าน มาณ ที่นี้ ขอแสดงความเคารพอย่างสูง พิมทิพา
(มีคนรู้จักแนะนำให้รับสารภาพ แล้วส่งฟ้องศาลแล้วเสียค่าปรับก็จบเรื่อง ดิฉันและเพื่อนไม่อยากยุ่งยาก เพราะมีลูกเล็กต้องดูแลและอ่อนเพลีย มีความเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่ได้พักผ่อน จึงยอมรับสารภาพไปแล้ว ตำรวจจึงส่งฟ้องศาล แต่อัยการส่งสำนวนกลับไม่ทราบสาเหตุใดโดยแจ้งเพียงว่าให้รอตำรวจแจ้งมาอีกครั้ง)
|