เนื่องจาก พื้นที่ข้างเคียงทางสาธารณประโยชน์ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา
ได้ทำการปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างเกือบติดกัน ทำให้ไม่สามารถเดินเข้า-ออกได้ ทำให้ที่นาซึ่งอยู่ด้านในกลายเป็นที่ตาบอด
และไม่แน่ใจว่าฝั่งไหนเป็นผู้บุกรุก ผู้เดือดร้อนก็เลยไปขอให้ทางผู้ใหญ่บ้าน และผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นคนรุ่นเก่าๆ
ที่ทราบดีว่าในอดีตเคยมีทางสาธารณประโยชน์ไปช่วยเจรจา แต่ทั้ง 2 ฝ่าย ก็ไม่ยินยอม โดยฝั่งซ้ายก็บอกว่าฝั่งขวารุกล้ำ
ส่วนทางฝั่งขวาก็บอกว่าฝั่งซ้ายรุกล้ำ
ดังนั้น ทางผู้เดือนร้อนก็เลยไปร้องทุกข์ต่อนายอำเภอ
ทางอำเภอก็ได้ดำเนินการประสานงาน โดยให้ ปลัด เทศบาล และผู้ใหญ่บ้าน ไปดูพื้นที่จริง
ก็พบว่าหมุดของพื้นที่ข้างเคียงทางสาธารณประโยชน์ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาอยู่เกือบติดกัน และในวันนั้นทางเจ้าของที่ดินข้างเคียงแปลงฝั่งขวาได้พูดว่าเขาได้ทำการขอรังวัดและออกโฉนดที่ดินใหม่
โดยรวมพื้นที่ดังกล่าวเป็นของเขาไปแล้วเมื่อปี 2544 และเขาก็ยึดตามโฉนดใหม่ ทางผู้เดือดร้อนก็เลยขอให้ทางเทศบาลทำหนังสือเพื่อขอสอบเขตทางสาธารณประโยชน์ต่อกรมที่ดิน
ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอสอบเขตเรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้น หัวหน้าฝ่ายรังวัดที่ดิน ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่พนักงานไปส่องดูพื้นที่จากดาวเทียมก็ทราบว่าพื้นที่ของทางสาธารณประโยชน์เหลืออยู่
59 เซนติเมตร (ขณะนี้ยังไม่ได้ลงพื้นที่เพื่อทำการสอบเขต)
และทางหัวหน้าฝ่ายรังวัดที่ดินได้เชิญช่างของเทศบาลมาเจรจา ซึ่งทางเทศบาลแจ้งว่า ไม่ว่าจะทำการสอบเขตหรือไม่ก็ตาม
ทางสาธารณประโยชน์ก็จะเหลือแค่ 59 เซนติเมตร เพราะจะต้องยึดตามโฉนดปัจจุบัน ทางผู้เดือดร้อนก็เลยสอบถามกับหัวหน้าฝ่ายรังวัดที่ดินว่า
การขอรังวัดที่ดินหากที่ดินแปลงที่จะขอรังวัดนั้นอยู่ติดกับทางสาธารณประโยชน์ สำนักงานที่ดินต้องส่งหนังสือแจ้งหน่วยงานใดหรือไม่ เพื่อเป็นตัวแทนในส่วนของที่สาธารณประโยชน์
แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ
จากเหตุการณ์ข้างต้นขอรบกวนสอบถามท่านอาจารย์ดังต่อไปนี้ค่ะ
1.การขอรังวัดที่ดิน
หากแปลงที่ต้องการรังวัดมีพื้นที่ข้างเคียงเป็นทางสาธารณประโยชน์ สำนักงานที่ดินจะต้องส่งหนังสือแจ้งเทศบาลหรือหน่วยงานใดหรื่อไม่
2.ในกรณีนี้ เมื่อเจ้าของที่ดินแปลงฝั่งขวาทางสาธารณประโยชน์ได้ทำการขอรังวัดและออกโฉนดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเอาที่ดินส่วนที่เป็นทางสาธารณประโยชน์ไปรวมอยู่ในโฉนดของตนเองถือว่าผิดหรือไม่
3.จากข้อ 2.หากว่าผิด เจ้าหน้าที่รังวัด และ เทศบาล หรือหน่วยงานอื่นใด
มีส่วนผิดด้วยหรือไม่
4.การสอบเขตทางสาธารณประโยชน์ ยึดถือระวางในอดีตได้หรือไม่
หรือยึดโฉนดฉบับออกใหม่ที่เป็นปัจจุบันเป็นหลัก
(เพราะดูจากระวางในอดีตทางสาธารณประโยชน์ก็กว้างพอสมควร)
5.มีวิธีไหนบ้างหรือไม่ที่ผู้เดือดร้อนสามารถดำเนินการเพื่อให้ได้ทางสาธารณประโยชน์กลับคืนมา
กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
นนนี่