ขออนุญาตสอบถามท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ เพิ่มเติม ในปัญหาข้อกฎหมาย ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยแล้ว ตามคำสั่งที่ 51/2561 วันที่ 21 สิงหาคม 2561 ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ยื่นคำร้อง เกี่ยวกับการที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีแดงที่ อ.1037/2558 และแดงที่ ฟ.25/2560 ที่พิพากษาเพิกถอนคำสั่งลงโทษทางวินัย ที่ให้ ป.ป.ช.มีอำนาจในการไต่สวนและชี้มูลความผิดทางวินัยได้เฉพาะความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการเท่านั้น ทำให้การไต่สวนและชี้มูลความผิดทางวินัยในฐานความผิดอื่นเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายนั้น และศาลรัฐธรรมนูญ ได้จำหน่ายคดี โดยวินิจฉัย ว่าได้มีประกาศพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 บังคับใช้แล้ว โดยมาตรา 91 เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนแล้วมีมติว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ หรือความผิด ฯ (2) ถ้ามีมูลความผิดวินัยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งรายงานสำนวนการไต่สวนเอกสารหลักฐานและคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาภายใน 30 วันเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป และ มาตรา 101วรรคหนึ่ง ผู้ถูกลงโทษตามมาตรา 98 มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายใน 90 วันนับแต่วันถูกลงโทษโดยไม่ต้องอุทธรณ์ตามกฎหมาย หรือจะอุทธรณ์ดุลพินิจก่อนก็ได้ และวรรคสอง ในกรณีที่ผู้ถูกลงโทษทางวินัยนำคดีฟ้องศาลปกครองโดยมิได้ฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ศาลปกครองแจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ และคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีสิทธิขอเข้ามาเป็นคู่กรณีได้ จากบทบัญญัติดังกล่าว กรณีจึงชัดเจนในประเด็นที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ร้องขอให้พิจารณาหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยต่อไป และมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี ต่อไป
ประเด็นคำถาม
ข้อที่ 1 คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 51/2561 เป็นการวินิจฉัยยกเลิกหักล้าง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 2/2546 ไปเลยหรือไม่อย่างไร
ข้อที่ 2 ถ้าหาก คณะกรรการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยในฐานความผิดอื่น ซึ่งไม่ใช่กรณีฐานความผิดทุจริตต่อหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจถอดถอน สามารถแต่งตั้งกรรมการสอบวินัยใหม่ก่อนการลงโทษวินัยได้หรือไม่อย่างไร
ข้อที่ 3 ถ้าหาก คณะกรรการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยในฐานความผิดอื่น ซึ่งไม่ใช่กรณีฐานความผิดทุจริตต่อหน้าที่ คณะกรรมการรับอุทธรณ์ จะใช้ดุลพินิจต่างไปจากฐานความผิดที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไว้ โดยอาศัยแนวทางคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ผ่านมา ใช้เป็นบรรทัดฐานในการใช้ดุลพินิจต่อไป ได้หรือไม่อย่างไร
ขอแสดงความนับถือเป็นอย่างสูง
1. ไม่รู้ว่าคำวินิจฉัยที่ ๒/๒๕๔๖ เป็นเรื่องอะไร เลยตอบไม่ได้
2. ถ้าข้าราชการทำผิด ไม่ว่า ปปช.จะชี้มูลหรือไม่ ผู้บังคับบัญชาก็มีหน้าที่ต้องดำเนินการทางวินัยทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องรอให้ ปปช. ชี้มูล
3. ขึ้นอยู่กับว่า ปปช.ชี้มูลโดยมีอำนาจหรือไม่ ถ้าไม่มีอำนาจ ผู้บังคับบัญชาก็ต้องดำเนินการทางวินัยไปตามพยานหลักฐาน จะเป็นความผิดฐานอะไรก็สุดแต่เรื่องที่กระทำจะนำไปสู่ฐานอะไร แต่ถ้า ปปช.มีอำนาจ ก็ต้องดำเนินการตามคำชี้มูลของ ปปช.