อยากเรียนถาม อาจารย์ ครับ
ประมาณ 1-2 ปีที่แล้ว ผมเป็นหนี้บัตรเครดิต และศาลได้พิพากษาให้เป็นหนี้ตามคำพิพากษา แต่ก็ยังไม่เห็นทางแบงค์ดำเนินการอะไร ตอนนี้ผมจะจดทะเบียนทำการค้าเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัดกับแม่ผม โดยที่ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านผมกับแม่ อยู่คนละที่กันและคนละที่กับ ที่อยู่ที่จะจดทะเบียนเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด ผมรบกวน อาจาร์ยมีคำถามว่า
ในทางข้อกฏหมายหรือทางปฎิบัติ
1 ถ้าผมกับแม่ผม ทั้ง 2 คน จดทะเบียนการค้าเป็น หจก.โดยให้ผมเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ทางแบงค์สามารถยึดทรัพย์สิน เงินฝาก บังคับคดีทรัพย์สินของ หจก. ทั้งหมดหรือบางส่วนได้หรือไม่ ส่วนผมไม่มีทรัพย์สินส่วนตัวอะไร
2 หรืออีกกรณีหนึ่ง ผมจดทะเบียน หจก.โดย ให้แม่ผมเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและผมเป็นหุ้นส่วนธรรมดา(จำกัดความรับผิด)ผลออกมาจะเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่
3 หากหจก. ต้องให้ บุคคลอื่นนำเงินฝากหรือที่ดิน มาคำประกัน หจก.เพื่อการซื้อสินค้ากับบริษัทอื่นๆ(แบงค์ การันตี) จะกระทบกระเทือนต่อบุคคลอื่นที่มาคำประกัน หจก. ด้วยหรือเปล่าในกรณีถูกบังคับคดี
รบกวนเวลาอาจารย์ด้วยครับ
เรียน คุณเดชา
การที่เจ้าหนี้ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างใดกับลูกหนี้นั้น อาจเป็นเพราะเ้ขาเห็นว่ายังไม่มีทรัพย์สินอะไรให้เขาต้องออกแรง แต่เมื่อไรที่เขาเห็นว่ามีทรัพย์สินพอที่เขาจะเข้ายึดได้ เขาก็คงไม่รีรอ
1.- 2. ถ้า หจก.นั้นจดทะเบียน ก็เป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก เจ้าหนี้มายึดได้เฉพาะในส่วนที่คุณมีอยู่ในห้าง
3. อาจกระทบกระเทือนเมื่อเจ้าหนี้เขามายึดทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสิทธิของคุณจนเป็นเหตุให้ หจก.นั้นดำเนินการต่อไปไม่ได้และผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้ของ หจก.ก็๋ย่อมไปตามเอาจากผู้ค้ำประกัน