เรียน อาจารย์ มีชัย ที่เคารพ
กระผมอยากปรึกษาอาจารย์ครับ เรื่องที่นาครับ
พ่อของผมมีที่นา 1 แปลงเป็นที่นามรดก จำนวน 16 ไร่เศษ มีชื่อ ลุง ป้า พ่อของกระผมรวม 3 คน เป็นผู้ครอบครองรวมกัน ส่วนป้าของกระผมไม่มีสามี-บุตร พ่อของผมได้เลี้ยงดูท่านๆจึงได้เซ็นเอกสารให้พ่อขอเป็นผู้จัดการมรดกของป้าผม ต่อมาท่านได้เสียชีวิตลง
ส่วนลุงของผมท่านได้แต่งงานมีภรรยาคนที่1 มีบุตรชาย 2 คน ต่อมาภรรยาของท่านได้เสียชีวิตลง ลูกๆก็ได้ไปบวชเรียนกันทั้ง 2 คน ต่อมาลุงของผมได้แต่งงานใหม่มีภรรยาคนที่ 2 มีบุตร1คน ต่อมา ลุงของผมได้เสียชีวิตลง ช่วงระหว่างท่านมีชีวิตอยู่พ่อของกระผม ได้แบ่งให้ทำนาประมาณ3-4 ไร่ หลังเสียชีวิตลงก็ไม่ได้มาทำอีกเลย
หลังจากลุงผมเสียชีวิต บุตรคนที่1 ได้มาเอาเงิน กับพ่อผม 3หมื่นกว่าบาท เพื่อเอาเงินไปเป็นค่าสินสอดแต่งงาน ต่อมาบุตรคนที่ 3 ได้มาเอาเงินอีก 3 หมื่นบาท ต่อมาบุตรคนที่ 2 ที่บวชอยู่ได้มาเอาเงิน 1 หมื่นกว่าบาท ไม่ได้ทำเอกสารหรือหลักฐานให้เซ็นต์ พวกเขาบอกว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับที่นาแปลงนี้อีกเลย ที่ไม่ได้ทำเอกสารให้เซ็นต์เพราะว่าบุตรคนที่2 บวชเป็นพระ มาขอความช่วยเหลือพ่อของผมจึงได้ให้เงินไป ด้วยความซื่อของคนต่างจังหวัด ที่ถือสัจจะ เป็นที่ตั้งอยู่แล้ว ต่อมาบุตรคนที่ 2 ก็ได้สึกจากพระและได้ภรรยาแล้วเขาได้มายื่นฟ้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ของพ่อเขา เพราะว่า ที่บ้านพ่อผมเขาเปลี่ยนเป็นเทศบาลที่ดินมีราคาเขาจึงได้เปลี่ยนสัจจะของเขา ขณะนี้ทางพ่อผมได้แต่งตั้งทนายยื่นเรื่องเป็นผู้ครอบครองปรปักษ์ บุตรของลุงผมที่มายื่นฟ้องเป็นผู้จัดการมรดกไม่เคยมายุ่งเกี่ยว กับที่นาแปลงนี้เลย เพราะว่า บุตรทั้งสองคน เขาได้บวชเรียนที่ต่างจังหวัด ส่วนบุตร คนที่สาม อยู่ที่ต่างหมู่บ้าน และเขาก็ได้ไปทำงานที่กรุงเทพ
อาจารย์ครับ ผมขอความกรุณาจากอาจารย์ จะมีสิทธิ์ชนะไหมครับอาจารย์ เพราะว่า ผมต้องเดินทางจากกรุงเทพไปให้กำลังใจพ่อผมทุกครั้งเพราะว่าท่านอายุ 81 แล้วครับอาจารย์
ด้วยความเคารพ
นาย เกื้อศักดิ์