ถูกฟ้องล้มละลาย
เรียนอาจารย์ครับขออนุญาตสอบถามข้อข้องใจและวิธีปฏิบัติก่อนล้มละลายดังนี้ครับ กล่าวคือ ภรรยาผมกู้เงินธนาคารเพื่อซื้อบ้านเมื่อปี2534 ยอดเงิน440,000บาท ส่ง10ปีต่อมามีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ขาดส่งเป็นช่วงๆและขอประนอมหนี้มาจนถึงปี46 ต่อมาธนาคารได้ยึดบ้านไปขายทอดตลาด ได้แค่ 200,000 โดยคนค้ำประกันที่3(จ้าของโครงการ)เป็นคนซื้อไป เมื่อวานนี้ได้มีหนังสือจากศาลล้มละลาย นัดพร้อมเพื่อเจรจากับเจ้าหนี้ โดยสรุปหนี้สินณ.วันที่ยื่นฟ้องเป็นเงิน 1,300,000 บาท ซึ่งผมไม่เข้าใจกับขั้นตอนจึงขอสอบถามอาจารย์ดังนี
1.ผมและภรรยาควรจะเจรจาในแนวทางใดครับ ( ปัจจุบัน ขายส้มตำและอาศัยอยู่ในที่วัด มีรายได้เดือนละประมาณ6,000 บาท มีลูกเรียนม3 1 คน )
2.ผมไม่มีเจตนาที่จะไม่ชำระหนี้และมีความพยายามที่จะใช้หนี้ คือมีน้อยส่งน้อย อย่างนี้พอจะเจราจาให้เห็นเจตนาได้หรือไม่
3.ถ้าผมเจราจาว่าขอส่งเดือนละ 2 พันแต่เจ้าหนี้ไม่ยอม ผมต้องปล่อยให้ศาลพิพากษาตามระเบียบ แล้วผมต้องทำอย่างไรต่อไปครับ
4.กำหนดในการสืบทรัพย์มี 3 ปี ถ้าเขาหาไม่ได้ต้องทำอย่างไงต่อไปครับ
5.ภรรยากู้เงินกองทุนหมู่บ้านและเงินจากธนาคารออมสิน โดยทะยอยส่งเป็นเดือน และเงินทั้งหมดอยู่ที่ธนาคารออมสินประมาณ 15,000 บาทจะโดนยึดหรือไม่ครับ
6.การประเมินรายได้ ภายหลังจากการล้มละลาย( หากเจรจาไม่สำเร็จ )เป็นใครครับ และหากจะขอเจรจาไม่ให้มายึดของที่บ้าน ซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไร ( อายชาวบ้านครับ บ้านผมเป็นบ้านนอก ) ต้องทำอย่างไร
7.คนค้ำประกันคือเจ้าของโครงการ คนที่ซื้อบ้าน200,000 ทำไมไม่ถูกฟ้องด้วยครับ ในเมื่อ อ่านในกฏหมายบอกว่าคนกู้กับคนค้ำประกันต้องรับสภาพหนี้ร่วมกัน
8.ตลอดเวลาไม่เคยได้รับเอกสารเรื่องขายทอดตลาดเลย จนมารับหมายนัดของศาลล้มละลาย เป็นไปได้ไหมว่า คนค้ำประกันเป็นผู้ดำเนินการเอง หรือจะมองได้ว่า คนค้ำประกันมีเจตนาอยากได้ บ้านจึงซื้อบ้านไว้ในราคาถูกๆ ( เป็นเหตุในกรทุจริตหรือไม่ครับ )
9.ต้องจ้างทนายหรือเราสามารถไปตอบคำถามเองได้ครับ
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์มากครับ
จตุพล13 |