สวัสดีครับท่านมีชัย ผมมีปัญหาขอความกรุณาปรึกษาหน่อยครับ
ผมได้ซื้อที่ดินเปล่า ขนาด 107ตรว.ไว้ ต่อมาพบว่าที่ข้างเคียงได้ก่อสร้างกำแพงโดยไม่ได้บอกกล่าวและกำแพงบางส่วน(ด้านหน้าที่) อยู่เกินเข้ามาในที่ของเราและด้านหลังที่มีการยกหลังหมุดไว้บนกำแพงคือครึ่งหนึ่งของกำแพงกลับเข้าไปในที่ของเค้า ผมจึงได้ไปถามเจ้าของบ้านและบอกว่ากำแพงสร้างไว้เกินในที่ผม ได้รับคำตอบว่า เค้ารู้แล้วตั้งแต่ตอนให้ช่างสร้างแล้ว ก็บอกช่างไปแล้วแต่ช่างบอกไม่เป็นไร เจ้าของบ้านก็ไม่สน หลักหมุนที่เคยเห็นก็ไม่อยู่เข้าใจว่าถูกเทปูนทับแล้ว เจ้าของบ้านบอกว่าก็กำแพงสร้างไปแล้วจะให้ทำอย่างไร ผมจึงว่าตอนสร้างก็ไม่บอกยังมาพูดไม่รับผิดชอบอีก (เจ้าของบ้านเป็นผู้อำนวยการ การเลือกตั้งประจำจังหวัดครับ) ผมจึงลองให้เจ้าหน้าที่ที่ดินรังวัดดูปรากฎว่าเกินจริงๆ (ไม่ถึง 1 ตรว) จึงได้พยายามเจรจา โดยเจ้าของบ้านบอกว่า ไม่มีปัญญาหาช่างมารื้อถอนเพราะเกินไม่มาก ผมจึงเจรจาว่างั้นก็แบ่งส่วนที่เกินขายให้ไปจะได้ไม่มีปัญหาเพราะไม่อยากฟ้องศาล (เจ้าของบ้านบอกว่าถึงฟ้องก็ต้องไกล่เกลี่ย) โดยยอมขายให้ในราคาประเมินของราชการ ราคา ตรว.ละ 10,000 บาท ทั้งที่บริเวณใกล้เคียงขาย 12,000-17,000.- บาท โดยของให้เจ้าของบ้านออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยผมจะดำเนินการติดต่อให้เอง เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดินว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าใด จึงแจ้งให้ทราบ เจ้าของบ้านบอกว่าไม่มีประโยชน์เค้าไม่ยอม ถ้าผมขายให้เค้าทั้งแปลงเลยดีกว่า ในราคาประเมินของที่ดิน ผมจึงบอกว่าไม่ได้ที่ให้ราคาของที่ดินแค่ส่วนเกินของกำแพงเนื่องจากไม่อยากมีปัญหา เจ้าของบ้านจึงไม่ยอมและให้ทางเลือกว่า ขายเค้าในราคา ตรว.10,000.-(ทั้งๆที่ ที่ดินของเค้าก็ซื้อมามากกว่าอยู่แล้ว) หรือให้ผมไปฟ้องร้องเอา ผมจึงตัดสินใจฟ้อง
ท่านคิดว่าผลจะเป็นอย่างไรครับ ผมต้องการให้รื้อถอนกำแพงออกไปเลยครับเนื่องจากผมเสียหาย แล้วยังยอมประนีประนอมแทบทุกอย่างแล้ว ยังไม่ยอมถือว่าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้วมากลั่นแกล้งประชาชน ใช้ไหมครับ
ขอพระคุณมากครับช่วยตอบด้วยครับ
ถ้าข้อเท็จจริงเป็นอย่างที่คุณว่ามาการฟ้องคดีก็เป็นหนทางเดียว ข้อสำคัญเมื่อไปถึงศาล ๆ คงพยายามไกล่เกลี่ย ในชั้นนั้นคุณก็ควรเรียกค่าเสียหายให้มากขึ้นเพื่อจะได้คุ้มกับค่าเสียเวลาและค่าทนาย และสมกับความดื้อด้านของเขา