ซื้อบ้านแล้วไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไขธนาคาร ทำให้ธนาคารทำการสั่งฟ้อง และตกลงให้ธนาคารขายทอดตลาด ผ่านมาประมาณ 5 ปี ธนาคารได้ส่งหมายศาล สั่งฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย แต่รับราชการจะมีผลอย่างไรคะ
1. การขายทอดตลาด และ ราคาของทรัพย์ไม่พอจ่าย แต่ทางธนาคารไม่แจ้งให้ทราบ มาทราบอีกทีถูกสั่งฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย
2. เราควรติดต่อใครก่อนครับ ธนาคาร หรือ ผู้รับมอบอำนาจ จากโจทย์
3. ไม่ต้องการล้มละลาย มีหนี้เกินกฏหมายกำหนดไม่ถึงแสน ถ้านำเงินไปชำระให้หนี้ลด หรือประนอมหนี้ ก่อนขึ้นศาลดีหรือไม่ หรือรอไปประนอมหนี้ที่ศาลครับ
4. เพราะเป็นคนเดียวในครอบครัวที่มีรายได้ จึงไม่อยากเป็นบุคคลล้มละลายครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ5. ครั้งแรก ศาลนัด 17 มีนาคม 2551 แจ้งกลับไปเพื่อขึ้นศาลที่ต่างจังหวัด ต้องติดต่อกับหน่วยงานใดของศาลล้มละลายครับ หรือติดต่อกับกรมบังคับคดี ในจังหวัดที่ตนเองอยู่ และการขึ้นศาลใหม่ จะมีเวลาห่างกันกับ ครั้งแรกเท่าไรครับ 6.
1. เจ้าหนี้เขามีหน้าที่อย่างเดียวคือตามเก็บเงินจากเราจนครบถ้วน ถ้ายังไม่ครบ เขาก็คิดดอกเบี้ยเรื่อยไป กว่าเขาจะฟ้องเพื่อยึดทรัพย์ไปขาย ดอกเบี้ยก็คงท่วมท้นแล้ว เมื่อขายทรัพย์ได้เขาก็เอาไปชำระดอกเบี้ยนั้นเสียก่อน หากมีเหลือจึงจะชำระเงินต้น เงินต้นจึงยังคงมีอยู่และผลิตดอกเบี้ยได้เรื่อยไป ไม่ช้าไม่นานก็ถูกฟ้องล้มละลาย ไม่ต้องเสียใจหรอก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างคุณนั่นแหละ คือ เมื่อไม่มีเงินชำระหนี้เขาแล้ว ก็ทำใจปล่อยให้เขายึดทรัพย์ไปขาย แล้วก็นึกว่าหมดทุกข์ แต่แท้ที่จริงทุกข์นั้นเพิ่งเริ่มต้น แต่จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะตัวเราเองไม่ได้ให้ความสนใจในหนี้ที่เป็นอยู่ เวลาเขาทรัพย์ก็ไม่คอยไปดู ในที่สุดเขาจึงขายในราคาถูก ๆ
2. ติดต่อทั้งสองคนนั่นแหละ รวมทั้งทนายความด้วย
3. ถ้ามีหนี้ไม่ถึงแสนจริง เขาก็ฟ้องล้มละลายไม่ได้ หนี้ที่คิดว่าไม่ถึงแสนน่ะ อาจเป็นเพียงเงินต้น เมื่อรวมดอกเบี้ยเข้าไปด้วยอาจกลายเป็นล้าน
4. ถ้าไม่อยากล้มละลายก็คงต้องขวนขวาย
5. เมื่อศาลเป็นคนนัด ก็ต้องไปติดต่อกับศาลเอง อันที่จริงควรหาทนายไปช่วยดูแลให้จะดีที่สุด หรือมิฉะนั้นก็ต้องไปที่ศาลเพื่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่ว่าจะต้องทำอย่างไรได้บ้าง