เรียน อ.มีชัย ที่นับถือ

              อาจารย์คะขอเรียนถามเรื่องที่ดินค่ะ  คือมีผู้นำ ส.ค.1 มาขอออกโฉนดที่ดิน โดยไปทับซ้อนกับที่ดินชาวบ้านหลายครอบครัว ชาวบ้านได้คัดค้านการรังวัดที่ดินแล้ว  ซึ่ง ส.ค.1 ที่ผู้นำมาอ้าง ซ้ำกับ ส.ค.1 ของชาวบ้านที่ออกโฉนดแล้ว และมีทะเบียนคุมเรียบร้อย  แต่ของผู้ที่อ้างไม่มีทะเบียนคุมอีกทั้งจำนวนที่ดินยังไปครอบที่ดินและ ส.ค.1 ของชาวบ้านอีกหลายครอบครัว

            ต่อมาผู้อ้าง ซึ่งเป็นวัดได้ทำหนังสือร้องเรียนกรมที่ดิน  โดยได้นำ ส.ค.1 หมายเลขเดียวกัน  ซึ่งยังเป็นเลขที่ซ้ำกับที่ดินกับชาวบ้านเช่นเดิม  แต่เป็น ส.ค.1 ที่มีวิธีการเขียนผิดไปจากฉบับแรกที่นำมาใช้ในการรังวัดที่ดิน  สรุปว่าผู้อ้างมีการนำ ส.ค.1 หมายเลขซ้ำกับของชาวบ้าน มาใช้เพื่อให้ที่ดินรังวัดที่ดินให้ถึง 2 ฉบับ  ทั้งสองฉบับมีพิรุธ ทั้งในเรื่องลายมือชื่อ  การไม่ทะเบียนคุม  กระดาษที่ใช้เขียนใหม่มาก รวมทั้ง ส.ค.1 หมายเลขเดียวกันต้องมีฉบับเดียวเท่านั้น

            เรียนถามอาจารย์ว่า  หากชาวบ้านต้องการให้พิสูจน์ ส.ค.1 ว่าได้มาอย่างไร ใครเขียนให้ ปลอมมาอย่างไร  ต้องดำเนินการอย่างไรคะ

            ในระหว่างการจะมารังวัดที่ดินแล้วทับซ้อนที่ดินของชาวบ้าน  มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการ  มาร่วมในการจะรังวัดที่ดิน  และพยายามโน้มน้าวใจให้ชาวบ้านยอมให้รังวัดที่ดินไปก่อน  แล้วค่อยไปคัดค้านภายหลัง  รวมทั้งสังเกตว่าพยายามจะทำให้เกิดการรังวัดที่ดินให้เข้ามาในเขตที่ดินชาวบ้านนั้น  ชาวบ้านสามารถฟ้องศาลปกครองถึงการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบได้หรือไม่  และกรณีการรังวัดที่ดิน  จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการร่วมด้วยหรือไม่

            อาจารย์คะเมื่อมีข้อพิพาทเรื่องที่ดิน ที่จะมีการออกโฉนดทับซ้อนที่ดินของชาวบ้านจนเป็นข่าวทางสื่อต่าง ๆ  ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่ดินระดับจังหวัดทั้งชงเรื่องที่ดิน  ให้มีการดำเนินการเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยไม่ยึดความยุติธรรมเป็นที่ตั้ง  ที่สำคัญเมื่อพบว่าชาวบ้านร้องเรียนว่าอีกฝ่ายหนึ่งมี ส.ค.1 หมายเลขเดียวกับชาวบ้านมาอ้างถึง 2 ฉบับ ที่ไม่เหมือนกัน เจ้าหน้าที่ที่ดินรายนี้ให้สัมภาษณ์หนังสือด้วยการวินิจฉัยว่าส.ค.1 ของวัด น่าจะถูกต้องทั้งที่ไม่มีทะเบียนคุม และซ้ำกับของชาวบ้าน ในขณะที่ชาวบ้านมีคำพิพากษาของศาลฎีกาเมื่อเกือบสามสิบปีให้ชาวบ้านชนะคดี จนนำไปสู่การออกโฉนดแล้ว  การให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ที่ดินที่ส่อไปในทางเอนเอียง  แทนที่จะพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าของใครปลอมของใครจริง  หากเป็นเช่นนี้ ชาวบ้านจะสามารถฟ้องศาลปกครองได้หรือไม่คะ

               รบกวนขอคำแนะนำจากอาจารย์ด้วยค่ะ  เพราะขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก  ไม่เป็นอันทำอะไร  หากต้องหยุดงานไปเดินเรื่องนี้ก็ต้องเสียเวลาทำให้ขาดรายได้

               ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ

                         ตัวแทนชาวบ้านที่เดือดร้อน