พี่สาวของผมเป็นร้านค้า มีจำหน่ายน้ำมันด้วย มีขวดและแกลลอนน้ำมันอยู่ในร้านมีอยู่วันหนึ่งไฟตก ทำให้ไฟฟ้าในบ้านดับบ่อย ๆ ที่บ้านพี่สาวจึงปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกตู้เย็น และไฟฟ้าบางดวง เหลือไฟฟ้าบางดวงกับพัดลม 1 อัน ไฟก็ยังดับบ่อย บ้านอื่นในบริเวณใกล้เคียงกันก็เป็นแบบเดียวกัน เป็นแบบนี้ประมาณชัวโมงกว่า ก็ได้ยินเสียงแป๊ะ เหมือนไฟชอ๊ต พี่สาวเดินหาตามเสียงว่าเกิดอะไร หันไปทางพัดลมก็เห็นไฟกำลังไหม้ วิ่งไปหยิบถังทรายมาเทแต่มันหนักจึงช้า ไฟลามมาถึงที่ตั้งขวดกับแกลลอนน้ำมันคราวนี้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ดับไม่ทันต้องแจ้งดับเพลิงมาช่วย กว่าจะดับไฟได้ก็ทำให้ข้างบ้านโดนไฟลามฝาบ้านเสียหายบางส่วน (เป็นห้องแถวติด ๆ กัน) ก็เจรจาจะจ้างช่างซอมแซมให้ ค่าเสียหายที่ตีราคากันประมาณ หกหมื่นบาท เตรียมช่างมาซ่อมแซม ปรากฏว่าข้างบ้านเปลี่ยนใจบอกจะจ้างช่างเอง โดยเขาจะเปลี่ยนวัสดุที่ดีกว่าเดิม แลวเรียกร้องจากพี่สาวเป็นค่าวัสดุและค่าแรงทุกบาทที่เขาจ่ายซื้อวัสดุใหม่และค่าแรงเป็นเงินเกือบสองแสน ต่อรองเขาเหลือ หนึ่งแสนเพราะถ้าใช้วัสดุแบบเดิมทำขึ้นใหม่ทั้งหมดพร้อมค่าแรงราคาก็ประมาณหนึ่งแสนบาท พี่สาวจึงไม่ตกลงและเอาเงินให้เขาหนึ่งแสนเขาก็ไม่ยอมรับ เขาขู่ว่าถ้าไม่ให้เขาจะฟ้องเอาติดคุก เรียนถามอาจารย์ว่าเหตุที่ไฟไหม้เกิดจากไฟฟ้า จะถือว่าพี่สาวเป็นผู้กระทำให้เพลิงไหม้โดยประมาทได้หรือไม่ พัดลมก็ไม่เก่าเพิ่งซื้อมาไม่ถึงปี ที่ไฟลุกลามเร็วพี่สาวก็ยอมรับว่าอาจเป็นเพราะมีน้ำมัน หยดที่พื้นและมีแกลลอนที่มีน้ำมันบรรจุทำให้ลามเร็ววกว่าปกติ ก็ยอมรับซ่อมแซมความเสียหายใหส้เขาแล้ว ขอเป็นทำฝาใหม่ก็ยอมถ้าใช้วัสดุแบบเดิม นี่เขาจะใช้วัสดุที่แพงกว่าเดิม ช่างก็ระดับดีกว่าเดิม ราคาเป็นสองเท่า พี่สาวควรที่จะยอมเขาหรือที่เขาถือโอกาสค้ากำไรอย่างนี้