กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ

 กระผมมีข้อสงสัยเรื่อง พรบ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน คือเรื่องมีอยู่ว่า มีบริษัทในพื้นที่ที่ผมทำงานอยู่มาชำระภาษีโรงเรือนช้ากว่ากำหนดจึงทำให้มีภาษีค้างชำระตามมาตรา 42และมีเงินเพิ่มตามมาตรา 43 แต่บริษัทเค้ายื่นคำขอยกเว้นเงินเพิ่มผมพิจารณาแล้วไม่สามารถยกเว้นให้ได้จึงมีหนังสือแจ้งให้มาชำระภาษีดังกล่าว แต่ทางบริษัทจะขอชำระเพียงค่าภาษีแล้วไม่ยอมชำระเงินเพิ่ม ผมจึงให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บรับชำระค่าภาษีไว้ก่อน ส่วนเงินเพิ่มคงปล่อยค้างไว้จนถึงปัจจุบัน ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์ดังนี้

1.เงินเพิ่มดังกล่าวถือเป็นค่าปรับทางอาญาหรือไม่( ปอ.มาตรา18(4) ) หรือถือว่าเป็นดอกเบี้ยตาม ปพพ.

2.เหตุใดกฎหมายจึงใช้คำว่าเงินเพิ่มไม่ใช้คำว่า ดอกเบี้ยหรือค่าปรับไปเลย

3.เงินเพิ่มดังกล่าวสามารถคิดดอกเบี้ยได้หรือไม่

4.พรบ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน มาตรา 44 มีสาระสำคัญว่าถ้ามิได้ชำระค่าภาษีและเงินเพิ่มภายใน 4 เดือน ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ยึด...โดยมิต้องขอให้ศาลสั่งหรืออกหมายยึด คำถาม หากผมฟ้องศาลเพื่อให้ศาลสั่งยึดให้ศาลจะยกฟ้องของผมใหมครับ

                  ขอแสดงความนับถือและขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าเป็นอย่างสูง

                                                     นิติกรท้องถิ่นผู้ด้อยประสบการณ์

1. ไม่ใช่ค่าปรับ และก็ไม่ใช่ดอกเบี้ย หากแต่เป็นเงินที่เรียกเก็บเพิ่มขึ้นเพราะเหตุที่ไม่ชำระให้ตรงเวลา จึงเรียกว่าเงินเพิ่ม

2. ก็เป็นเงินที่เรียกเก็บเพิ่ม  ไม่ใช่ดอกเบี้ย ไม่ใช่ค่าปรับ

3. เรียกไม่ได้

4. ไม่ทราบซี เดาใจศาลไม่ถูกหรอก

     การที่คุณยอมรับเงินภาษีค้างโดยไม่เรียกเก็บเงินเพิ่มพร้อมกัน ระวังคุณจะต้องรับผิดชอบในภายหลัง หรือถูกดำเนินการทางวินัยได้