ต่อจากคำถาม 049361
เรียน อาจารย์ที่เคารพ
ในคำฟ้องดิฉันเคยขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองแล้วคะ แต่ต่อมาผู้บริหาร(ผู้ถูกฟ้องคดี) ได้อ้างว่าได้ดำเนินการแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งไปแล้ว หากศาลมีคำสั่งคุ้มครองจะเกิดความเสียหายต่อทางราชการอย่างรุนแรงเนื่องจากเป็นตำแหน่งรองผู้อำนวยการกลุ่ม ซึ่งไม่มีใครสามาถปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการกลุ่มได้ และจะมีผลกระทบต่อเงินเดือนที่ได้มีคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนในระดับนั้นไปแล้ว ทำให้ศาลกมีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครอง โดยคำสั่งของศาล มิให้ผู้ฟ้องคดีอุธรณ์เพราะการยกเลิกการคุ้มครองจะไม่กระทบกระเทือนต่อคำฟ้องใด ๆ แต่หลังจากที่ศาลมีคำสังดังกล่าวนี้ ดิฉันจึงไม่อุธรณ์ แต่ได้ชี้แจงให้ศาลทราบว่า คำชี้แจ้งของผู้ฟ้องคดีเป็นเท็จ ดังนี้
1. ตำแหน่งดังกล่าวสำนักงาน ก.ค.ศ ไม่ได้กำหนดให้เป็นตำแหน่งรองผู้อำนวยการกลุ่มคามคำกล่าวอ้างของผู้บริหารเลย เนื่องจากเป็นตำแหน่งว่างระดับชำนาญการพิเศษ ของผู้ปฏิบัติงานภายในกลุ่มซึ่งตั้งแต่ปี 2549 ที่ ก.ค.ศ.กำหนดตำแหน่งไว้ ไม่เคยมีการคัดเลือกและแต่งตั้งเพราะเป็นตำแหน่งว่างที่ไม่มีเงิน การเข้าสู่ตำแหน่งต้องย้ายคนและเงินเดือนไปด้วย จึงไม่สามารถรับย้ายคนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอื่นได้ และทุกสำนักงานเขตฯ ก็มีปัญหาลักษณะเดียวกัน ดังนั้น การคัดเลือกคนจึงเป็นเรื่องภายในหน่วยงานเดียวกัน กลายเป็นช่องทางหาประโยชน์ให้กับพวกพ้องของผู้บริหาร โดยใช้ประโยชน์เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก คนที่นั่งทำงานอย่างเดียวโดยไม่วิ่งเต้นหาเส้นสายไม่มีโอกาสทำให้บางรายเกิดความท้อและย้ายออกไปเป็นครูสายผู้สอนบ้างก็มี พร้อมแนบกรอบอัตรากำลังการกำหนดตำแหน่งให้ศาล.
2. บุคลากรภายในกลุ่มสามารถปฏิบัติงานแทนผู้อำนวยการกลุ่ม ได้ทุกคนเพราะที่ผ่านมาหลายปี หากผู้อำนวยการกลุ่มไปราชการ กรณีมีงานเร่งด่วนเกิดขึ้นก็จะมีคำสั่งมอบหมายให้บุคลากรที่รับผิดชอบเรื่องใดก็ให้คนนั้น ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการกลุ่มเป็นเรื่องนั้น ๆ จึงไม่เคยมีราชการเสียหายต่อทางราชการ หรือในบางครั้งก็ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทนผู้บริหารเองก็มี พร้อมแนบคำสั่งการมอบหมายและรายงานผลในแต่ละเรื่องให้ศาล
3. แจ้งต่อศาลว่าหน่วยงานยังไม่ได้มีการแต่งตั้ง และการเลื่อนขั้นเงินเดือนขณะนี้ แต่ละคนก็เลื่อนขั้นเงินเดือนในตำแหน่งเดิมใช้ฐานเงินเดือน พร้อมแนบคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนที่เกี่ยวข้องแจ้งให้ศาล
หากดิฉันจะขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองอีก จะได้หรือเปล่าคะ เพราะเห็นว่าดำเนินการผิดหลักเกณฑ์อย่างชัดเจน เช่น ในประกาศฉบับใหม่อ้างว่าได้ดำเนินการสำรวจข้อราชการ ปีละ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เม.ย. ครังที่ 2 ต.ค.ทุกปี จึงได้ประกาศรายชื่อของข้าราชการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะได้รับการแต่งตั้ง จำนวน 1 ราย เพื่อแจ้งประกาศรายชื่อให้ทราบโดยทั่วกัน หากจะทักท้วงให้ทักท้วงภายใน 30 วัน นับจากประกาศโดยทักท้วงได้ในประเด็นเรื่องคุณสมบัติ และผลงาน เท่านั้นนอกประเด็นถือว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ประกาศฉบับใหม่ดำเนินการไม่ถูกต้อง คือ 1.ไม่เคยมีการสำรวจบุคคลและไม่เคยประกาศให้ผู้มีคุณสมบัติทราบและส่งแบบประเมินฯ ทั้งที่ภายในกลุ่มมีคุณสมบัติครบถ้วน จำนวน 3 คน ทำให้บุคลากรอีก 2 คน รวมทั้งดิฉันด้วยไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่งแบบประเมินด้วยซ้ำและประเด็นทักท้วงก็กำหนดเฉพาะ 2 ประเด็น ทั้งที่ ก.พ.กำหนดไว้ 3 ประเด็นเป็นลักษณะชงเรื่องขึ้นมาใหม่โดยไม่กล่าวถึงการสอบคัดเลือกที่กำลังพิพาทกันอยู่
จึงเป็นประกาศที่แอบอ้างทำขึ้นลอย ๆ ไม่มีหลักฐานหรือร่องรอยการดำเนินการตามขั้นตอนแต่อย่างใด ลักษณะดังกล่าวจะถือว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อศาลหรือไม่คะ
ขอขอบคุณท่านอาจารย์มากคะ |