ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    049528 อยู่ในที่กรมศาสนามา 40 ปีเจ้าของสิทธิ์ให้เราย้ายออกเพราะจะขายต่อครอบครัวริมน้ำ24 สิงหาคม 2556

    คำถาม
    อยู่ในที่กรมศาสนามา 40 ปีเจ้าของสิทธิ์ให้เราย้ายออกเพราะจะขายต่อ

    ครอบครัวของกระผมได้อาศัยพื้นที่ของโรงสีแห่งหนึ่ง จ.อยุธยา มาเป็นเวลาประมาณ 45-50 ปีตั้งแต่สมัยอากง (อากงเป็นเพียงหลงจู้หรือผู้จัดการของโรงสี) โดยพื้นที่ดังกล่าวนี้ของโรงสีและบ้านของกระผมมีการแบ่งแยกแปลงเป็น 2 แปลงอย่างชัดเจน (แปลเล็กเป็นบ้านของกระผม) เพื่อชำระค่าเช่าตั้งแต่สมัยอากงยังอยู่ โดยทั้งหมดนี้เป็นพื้นที่ของกรมศาสนา แต่ชื่อสิทธิในการเช่าของทั้ง 2 แปลงนั้นเป็นของ นาง ก. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (ปัจจุบันครอบครัวผมถือหุ้นในโรงสีอยู่ 1/36 ส่วน) โดยอากงและพ่อของกระผม (ทั้งคู่ได้เสียชีวิตแล้วปัจจุบันผมอายุ 35 ปี) ได้บอกต่อ ๆ กันมาว่าพื้นที่แห่งนี้ เราสามารถอยู่อาศัยได้ตลอดไป อีกทั้งพื้นที่แปลงที่เป็นบ้านของกระผมทางโรงสีไม่เคยเข้าใช้ประโยชน์เลย แต่ทางโรงสียังคงเป็นผู้ที่ส่งชำระค่าเช่าให้กับกรมศาสนาทั้ง 2 แปลงจนถึงปัจจุบัน

    ด้วยความทรุดโทรมของบ้านทำให้หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 บ้านของกระผมได้เกิดความเสียหายพอสมควรจึงตกลงกันเองในหมู่พี่น้องว่าจะสร้างบ้านขึ้นมาใหม่ทั้งหมดในพื้นที่แปลงเดิม (สร้างใหม่ประมาณกลางปี 2555 และแล้วเสร็จภายใน 4-5 เดือน) โดยก่อนสร้างได้แจ้งทางวาจากับทางอาแป๊ะพี่ชายของพ่อ ซึ่งปัจจุบันเป็นหลงจู้แทนอากงซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า “ถ้าบ้านพังก็สร้างใหม่ได้ไม่เป็นไร”

    ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เราได้ทราบว่าทางโรงสีจะทำการขายพื้นที่โรงสีทั้งหมดรวมทั้งแปลงที่กระผมได้สร้างบ้านด้วย (บ้านของกระผมติดหน้าท่าน้ำริมน้ำเจ้าพระยา คิดเป็น ¼ ของหน้ากว้างของโรงสีด้านแม่น้ำทั้งหมด) ทางผู้ถือหุ้นใหญ่ (นาง ก.) ได้เรียกแม่ของกระผมไปคุยบอกว่าได้สร้างบ้านบนพื้นที่ของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการลื้อออกไป แต่ทางญาติของผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ทำการคัดค้านไว้ว่าไม่ควรจะลื้อ ควรเก็บบ้านเอาไว้และซื้อตัวบ้านของกระผมโดยขอให้ทางกระผมแจ้งราคาขายตัวบ้านไป ซึ่งทางแม่ของกระผมไม่กล้าตัดสินใจใด ๆ ในเรื่องนี้เลย ทางแม่ได้แจ้งกับนาง ก. แล้วว่าได้แจ้งขอกับอาแป๊ะแล้ว อาแป๊ะเอง (อยู่ในที่นั้นด้วย) ก็นิ่งเฉยกับคำพูดของแม่กระผมทำเสมือนไม่ได้ยิน 

    ผมขอเรียนถามท่านว่าทางบ้านของกระผมมีสิทธิ์ใด ๆ หรือไม่ในที่ดินแปลงนี้ และพอจะมีมีวิธีการอย่างไรในการที่จะเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าว เพราะทางบ้านของกระผมซึ่งไม่ได้มีฐานะอะไรเงินเก็บก็ได้ใช้ไปในการสร้างบ้านหมดแล้วและไม่ต้องการย้ายที่อยู่ใหม่ ทางนาง ก. ขอคำตอบเรื่องราคาบ้านภายใน  2 สัปดาห์ครับผมขอรบกวนท่านชี้แนะด้วยครับ เราไม่ต้องการย้ายที่อยู่เลย

    ขอขอบพระคุณ อ.มีชัย มาก ๆ ครับ

     

    คำตอบ
    คุณก็มีสิทธิในฐานะผู้เช่าช่วงเท่านั้น  เมื่อผู้ให้เช่าเขาไม่ให้เช่าต่อ คุณก็ต้องหาทางขยับขยาย  ทางที่ดีควรเริ่มคิดเรื่องราคาบ้านและเจรจากับเขา เผื่อความสัมพันธ์อันยาวนาน จะเกิดความเห็นใจกันบ้าง 
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    24 สิงหาคม 2556