ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    049657 เงินชคบแสงจันทร์13 ตุลาคม 2556

    คำถาม
    เงินชคบ

    13  ตุลาคม  2556 เที่ยงคืน   (ฉบับที่  2 ของวันนี้)

    เรียนคุณมีชัยที่นับถือ

    ดิฉันเคยเรียนถามคำถามกับท่านมา 3 ครั้งแล้ว คือ  คำถามที่  045012  วันที่  18  มิ..54  ,  คำถามที่  045081  วันที่  23มิ..54    คำถามที่                วันที่  13  ตุลาคม  2556  วันนี้ถามท่านอีกว่าดิฉันอ่านคำขออุทธรณ์ แล้วแปลความหมายถูกต้องหรือไม่            คำอุทธรณ์มีดังนี้

           อธิบดีกรมบัญชีกลาง  ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ขออุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว  โดยมีรายละเอียดดังนี้

     

    1. ต้องอธิบายว่าได้รับเงินไว้โดยสุจริต  ซึ่งเคยพูดมาแล้วตอนศาลปกครอง......    และเคยชนะแล้ว  ยืนยันคำพูดเดิมได้ไหมคะ
    2. การไม่เคยมีหนังสือหารือกับอธิบดีกรมบัญชีกลาง

    ข้อนี้ไม่หารือแน่นอน  เหตุผล ไม่ทราบว่าท่านมาเกี่ยวข้องกับคดีมาก่อนฟ้องคดี    ดูได้จากการฟ้องคดีในครั้งแรกฟ้องเฉพาะมณทลทหารบกที่  33  แต่ศาลปกครอง...........   ให้ทำคำร้องเพิ่มเติมอีก  1 ฉบับ ฟ้องกรมบัญชีกลาง  และต่อมามีหนังสือจากศาลให้เปลี่ยนเป็นอธิบดีกรมบัญชีกลาง  

    ทำไมจึงคิดฟ้องเฉพาะมณฑลทหารบกที่ 33   เพราะการเริ่มรับบำนาญ   ไปรับเงินกับมณฑลทหารบกที่ 33  เห็นทหารพร้อมอาวุธครบมือหลายคน ไปรับเงินมาจากธนาคารทหารไทยสาขาเชียงใหม่  ถนนช้างม่อย  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียง

    ใหม่   เข้าใจว่าคงเป็นเงินที่กองทับกที่สามีทำงานอยู่ส่งเข้ามาให้หน่วยงานเดียวเท่านั้น   ต่อมาไม่ได้ไปรับเอง มอบให้ธนาคารทหารไทยสาขาเชียงใหม่รับแทนเข้าบัญชีไปเลย  เมื่อไหร่มีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการก็มีการขึ้นบำนาญไปด้วย ตัวเลขเงินก็เพิ่มขึ้น  เป็นเช่นนี้ตลอดเวลา  ตั้งแต่รับบำนาญมาเริ่ม  13  พฤศจิกายน  2520  จนถึงปัจจุบัน

                 การที่เงินเพิ่มขึ้นแล้วไม่เคยสนใจติดตามถามนั้น  ไม่ทราบจริงๆว่าต้องมีหนังสือถามท่าน      เนื่องจากเมื่อสามี    เสียชีวิตได้จัดงานฒาปณกิจที่วัดโสมนัสวิหารที่กรุงเทพฯ  เจ้ากรมแผนที่ทหารมาร่วมงานเห็นว่าลูก  2 คนอายุ  1 ขวบและ 3 ขวบยังเล็กมากและดิฉันเงินเดือนน้อย    ท่านบอกดิฉันในงานว่าจะขอบำนาญพิเศษให้    นับแต่วันนั้นก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดมาพูดถึงกฎ  กติกาการรับเงินบำนาญนั้นเลย       

                 ต่อมา ก็มีจดหมายจากมณฑลทหารบกที่ 33  ให้ไปรับบำนาญก็ไปรับเองในระยะแรก  ต่อมาทราบว่ารับผ่านธนาคารได้ก็ 

                 มอบให้ธนาคารรับ   ดิฉันเชื่อโดยสุจริตอย่างยิ่งว่าเป็นเงินที่มีสิทธิควรได้รับด้วยความเมตตากรุณาจากทางราชการเพื่อตอบแทนการเสียสละอย่างสูงสุดของสามี    ให้มาเท่าไรก็นำไปเลี้ยงลูก  เลี้ยงหลาน  ไม่เคยทราบมาก่อนว่าเมื่อมียอดเงินอะไรเปลี่ยนแปลง  ต้องทำหนังสือไปถามคนนั้น  คนนี้   ต้องบอกก่อนรับเงินซิว่า  มีกฎ  กติกา  มีกฎหมายอะไร  จะได้ปฏิบัติตนถูก   นี่รับเงินมานับถึงวันนี้   36  ปีแล้ว    เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ มานานมาก    ที่ไม่ได้ตรวจสอบสิทธิของผู้รับเงินแล้วจ่ายเงินมาให้เอง  แล้วมาโทษคนรับเงินซึ่งไม่มีโอกาสทราบกฎหมายว่า    “มิได้สนใจจะติดตาม”    การที่จะมาเรียกเงินคืนก็เป็นการทำให้ดิฉันเดือดร้อนเกินสมควร  ผิดหลักความมั่นคงแห่งสิทธิ   และยังผิดหลักความคุ้มครองความเชื่อถือและความไว้วางใจโดยสุจริตของดิฉันอีกด้วย  เพราะดิฉันชอบอาชีพทหารมาก  ตอนเด็กอยากเป็นทหารพลร่มหญิง   แต่พ่อแม่ไม่อยากให้เป็นกลัวร่มไม่กาง   ก็เลยเลือกแต่งงานกับทหารแทน    เพราะทหารทำอะไรก็น่าเชื่อถือ  มีกฎ  ระเบียบ  มีคำสั่งเด็ดขาด  อบอุ่น  แต่ตอนนี้ทราบแล้วว่าไม่จริง  สั่งให้เงินมาตั้งหลายสิบปีใช้ไปหมดแล้วจะมาเอาเงินคืนเป็นก้อนใหญ่ๆอีก    เงินไม่มีก็ฟ้องร้องเอาเป็นทุกข์   ทุกข์ๆ ๆ   ถ้าถอยหลังชีวิตไปได้อย่าว่าแต่จะรับบำนาญพิเศษเลย   ไม่แต่งงานกับทหารด้วยเด็ดขาดคะ

     

          

               ตอบประมาณนี้พอไหมคะ

     

              ด้วยความนับถือ

              แสงจันทร์

     

    คำตอบ

    คุณบอกมาแต่่ว่าจะแก้อุทธรณ์อย่างไร  แต่ไม่ได้บอกว่าอธิบดีกรมบัญชีกลางเขาอุทธรณ์ว่าอย่างไร  เลยไม่รู้ว่าที่คุณแก้หรือตอบเขาน่ะ ตรงกับท่ี่เขาสู้หรือไม่  เอาเป็นว่าพยายามยึดหลักเดียวกับที่สู้มาในชั้นต้น  ถ้าเขาอ้างว่าทำไมเราไม่หารือกับอธิบดีกรมบัญชีกลาง  ก็ตอบไปว่าการที่ทางราชการจ่ายเงินมาให้ ก็เข้่าใจว่าทุกอย่างถูกต้องแล้ว เพราะทางราชการมีหน่วยงานที่ตรวจสอบทุกขั้นตอนอยู่แล้ว  คุณเป็นคนนอกราชการไม่มีเหตุอะไรที่จะสงสัย จึงไม่ได้สอบถาม


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    13 ตุลาคม 2556